ความสุขของต้นกล้วย
เช้าวันที่อากาศแจ่มใส แมลงปอตัวหนึ่งกำลังดูดกินน้ำหวานจากปลีกล้วยอย่างหิวกระหาย
“กินเยอะๆนะ เจ้าแมลงปอ จะได้มีแรงบินได้ไกลๆ” ต้นกล้วยร้องบอกด้วยน้ำเสียงสดใส
แมลงปอได้ยินดังนั้น ก็หยุดดูดน้ำหวาน แล้วเอ่ยกับต้นกล้วยว่า “เธอใจดีจัง ดูท่าทางและน้ำเสียงเธอมีความสุขมากนะ”
“ใช่แล้วจ้ะ..ฉันมีความสุขมาก เพราะฉันกำลังจะมีกล้วยผลใหญ่ๆให้ใครๆได้กิน”
“แต่ฉันรู้มาว่า ถ้าเธอออกผลเมื่อไหร่ ชีวิตของเธอก็จะต้องจบสิ้นลง แล้วอย่างนี้เธอยังจะมีความสุขอีกเหรอ”
ต้นกล้วยโบกใบตองอ่อนไปมาอย่างร่าเริง แล้วตอบว่า “มีซิ..ถึงฉันจะเป็นไม้ล้มลุก มีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน แต่ฉันก็ดีใจที่เกิดมาบนโลกนี้แล้วมีประโยชน์ต่อผู้อื่น เธอรู้ไหม ใบตองใบใหญ่ๆนี่น่ะ นอกจากจะช่วยบังแดดบังฝุ่นลมแล้ว คนยังนำใบไปห่ออาหารและประดิษฐ์งานฝีมือ เช่น ทำบายศรี ทำกระทง ส่วนที่เป็นก้านใบ หรือก้านกล้วย เขาเอาไปทำของเล่นให้เด็กๆ ที่เรียกว่าม้าก้านกล้วยไงล่ะ ฉันเห็นเด็กแถวนี้ขี่ม้าก้านกล้วยวิ่งเล่นอย่างมีความสุข ฉันก็พลอยมีความสุขไปด้วย”
“แล้วส่วนอื่นๆล่ะ” แมลงปอเอ่ยถามด้วยความสนใจ
“ปลีกล้วย ที่เธอกำลังกินน้ำหวานนี่ไง คนก็เอาไปทำอาหาร พอเป็นผลกล้วยก็เอาไปกินกัน กินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เป็นอาหารบำรุงร่างกายด้วยนะ ส่วนต้นกล้วยก็เอาหยวกไปทำอาหารเลี้ยงสัตว์ พวกหมูนี่ล่ะที่ชอบกิน แถมยังเอาไปทำงานศิลปะต่างๆได้ด้วยนะ แล้วกาบกล้วยก็ลอกเอาไปทำเป็นเชือกกล้วยใช้ผูกของ และถ้าเป็นงานลอยกระทง คนจะนำทั้งใบทั้งต้นของฉัน ไปทำกระทงลอยน้ำ”
“โอ้โฮ..ชีวิตของเธอช่างมีคุณค่าและเป็นประโยชน์มากมายต่อผู้อื่น จริงๆ รวมทั้งฉันด้วยที่ได้ดูดกินน้ำหวาน..ขอบใจนะ” แมลงปอพูดจบก็บินจากไป
ต้นกล้วยมองตามแมลงปอที่ขยับปีกขึ้นลงอย่างมีความสุข พร้อมกับรำพึงว่า
“ฉันลืมบอกเธอไปแมลงปอ ว่าถ้าฉันตาย ฉันก็จะมีหน่อกล้วยต้นใหม่เติบโตขึ้นมาแทนที่ และทุกชีวิตของพวกเราก็จะดำรงอยู่ด้วยการเกื้อกูลผู้อื่นเช่นนี้ตลอดไป”
…….
คน ที่เกิดมาแล้ว มีชีวิตอยู่ยาวนาน แต่ใช้ชีวิตให้หมดเปลืองไปกับความไร้สาระ ไม่เกิดประโยชน์ทั้งต่อตนและผู้อื่น ย่อมเป็นชีวิตที่ไร้ค่า ถึงคราตายไป ก็ไร้ความหมาย ตรงข้ามกับคนที่แม้มีชีวิตไม่ยืนยาว แต่ตลอดชีวิตได้สร้างสรรค์คุณงามความดีไว้ให้กับตนและคนอื่นๆ ย่อมได้รับการสรรเสริญจากหมู่ชน
ที่มา: จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 110 มกราคม 2553 โดยไม้หอม