เมื่อวันก่อนได้ฟังธรรมะจากอาจารย์วิโรจน์ ฤทธิ์ลิขิต อาจารย์ได้เล่าเรื่อง
ของ อาแปะคนหนึ่งให้ฟัง น่าสนใจมาก
เรื่องมีอยู่ว่า มีอาแปะคนหนึ่ง เลี้ยงม้าตัวเมียไว้ 1 ตัว อาชีพของแกคือ
นำม้าตัวเมียไปจ้างผสมพันธุ์ และเมื่อได้ลูกม้า แกก็จะนำลูกม้าไปขาย
เมื่อวันก่อนได้ฟังธรรมะจากอาจารย์วิโรจน์ ฤทธิ์ลิขิต อาจารย์ได้เล่าเรื่อง
ของ อาแปะคนหนึ่งให้ฟัง น่าสนใจมาก
เรื่องมีอยู่ว่า มีอาแปะคนหนึ่ง เลี้ยงม้าตัวเมียไว้ 1 ตัว อาชีพของแกคือ
นำม้าตัวเมียไปจ้างผสมพันธุ์ และเมื่อได้ลูกม้า แกก็จะนำลูกม้าไปขาย
มีลูก 3 คน มีบ้าน 2 หลัง จะแบ่งยังไงดีครับ?
เพื่อนผมคนหนึ่งคิดยังไงก็คิดไม่ตก เกษียณอายุราชการแล้วยังต้องทำงานงกๆ
“สู้เพื่อลูก”ผ่อนบ้านหลังที่ 3 กลัวแบ่งสมบัติไม่ลงตัว เดี๋ยวจะนอนตายตาไม่หลับ
ผมบอกถ้าไม่อยากวุ่นวาย..ง่ายนิดเดียว
แค่ขายบ้านให้หมด แล้วใช้เงินให้มีความสุขกับชีวิตหลังเกษียณ เหลือเท่าไหร่ก็เท่านั้น..
ครั้งหนึ่ง มีกลุ่มของลูกกบตัวเล็ก ๆ กลุ่มหนึ่ง ได้มาจัดการแข่งขัน เพื่อจะปีนขึ้นไปยอดเสาไฟฟ้าแรงสูง มีกลุ่มชนชาวกบมากมาย มารอชม และเชียร์การแข่งขันครั้งนี้
การแข่งขันเริ่มขึ้น พูดอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีชนชาวกบตัวใด จะเชื่อว่ากบตัวเล็ก ๆ เหล่านี้จะปีนขึ้นไปจนถึงยอดได้ มีเสียงพูดลอยมาให้ได้ยินเป็นต้นว่า “เขาไม่มีทางจะขึ้นไปถึงยอดหรอก มันยากลำบากขนาดนั้น” หรือ “เขาไม่มีโอกาสจะประสบความสำเร็จหรอก เสามันสูงขนาดนั้น”
ช่างทำอิฐคนหนึ่ง กำลังใส่อิฐลงไปในเตาเผาทีละก้อน
อิฐก้อนหนึ่งเริ่มตัวสั่นเทาด้วยความกลัว เมื่อคิดว่ากำลังจะถูกไฟที่ลุกโชนเผาไหม้เกรียมในไม่ช้า
“อย่ากลัวไปเลยน้องชาย” อิฐก้อนอื่นๆ พากันปลอบมัน
“นั่นน่ะเป็นโอกาสที่หายากนะ เพราะการเผาไฟจะทำให้เราเป็นประโยชน์”
แต่อิฐขี้กลัวก้อนนั้นไม่ยอมเชื่อ มันพยายามหลบหลีกให้พ้นมือของช่างทำอิฐ
ในที่สุดก็เข้าไปแอบอยู่ในกองฟาง และสามารถหลบเลี่ยงการถูกเผาได้สำเร็จ
เด็กชายตาบอดผู้อยากรู้อยากเห็นถามกับเด็กชายตาดีคนหนึ่ง “พระอาทิตย์มันเป็นอย่างไร”
เด็กชายตาดีเงยหน้าขึ้นมองดวงอาทิตย์ มองเสร็จก็หันมองหาสิ่งของแถวนั้น แล้วก็เดินไปหยิบถาดทองเหลืองที่วางพิงอยู่ข้างโต๊ะ ค่าที่เห็นว่ามันมีรูปร่างกลมเหมือนกัน
“ดวงอาทิตย์เป็นอย่างนี้” พูดพลางยื่นถาดมาข้างหน้าเด็กชายตาบอด
เด็กชายตาบอด ยื่นมือมาจับถาดทองเหลืองแล้วก็เอานิ้วเคาะเบาๆ เขานึกในใจ พระอาทิตย์มีเสียงไพเราะกังวานนั่นเอง
ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งมีสองพ่อลูกคนโม่แป้งเป็นเจ้าของโรงสีแต่ยากจนมากอยู่ครอบครัวหนึ่ง และปีนี้ด้วยจะเป็นเพราะเคราะห์หามยามร้าย บรรดาลให้ต้องหนักขึ้นมามากกว่าเก่าเข้าไปอีก เพราะเท่าที่ผ่านมาก็จนแสนที่จะจนอยู่แล้ว และยังมาปีนี้ด้วยฝนฟ้าก็ไม่ยอมตกลงมาให้เลยสักนิด พื้นดินจึงเกิดความแห้งแล้ง และจึงเป็นผลให้ต้นข้าวสาลี ที่เมื่อก่อนพอจะมีพวกชาวนานำมาโม่เป็นแป้งนั้นอยู่บ้าง ก็เกิดเหี่ยวเฉาและ ตายเสียจนหมดทุกไร่ไป สองพ่อลูกจึงต้องหนักใจด้วยไม่มีใครนำข้าวสาลีมาสีเป็นแป้งเลยสักเจ้าเดียว ลูกชายได้พูดบอกกับพ่อว่า ” พ่อ ๆ แม้แต่แป้งที่จะมาทำเป็นขนมปังใช้กินกัน ก็หมดแล้วนะ จะทำยังไงดีล่ะ ” พ่อจึงพูดขึ้นว่า ” ต้นสาลีก็ตาย หมด ไม่มีใครจะเอามาโม่แล้วด้วย เฮ่อ..กลุ่มใจดีแหละ แต่..เดียวก่อน เรายังมีลาอยู่นี่ไง ไม่มีแป้งโม่ เจ้าลานี่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมี เราเอาลานี่ไปขายแลกเอาเงินมาใช้กินกันดีกว่า “
กษัตริย์ของอาณาจักรฮิบรูพระองค์หนึ่งพระนามว่าโซโลมอนได้มีพระราชโองการขึ้นฉบับหนึ่ง ซึ่งต้องนับว่าเป็นโองการที่แปลกเอาการอยู่
พระบรมราชโองการนั้นสั่งให้เหล่ามหาอำมาตย์ที่ปรึกษาของพระองค์สร้างแหวนวิเศษขึ้นวงหนึ่ง และให้แหวนวิเศษนั้นมีคำจารึกซึ่งไม่เกี่ยงว่าจะเป็นคาถาหรือบทสวดใดๆ ก็ได้ลงบนแหวน และเมื่อใดก็ตามที่พระองค์ทอดพระเนตรแหวน แหวนนั้นจักต้องสามารถเปลี่ยนอารมณ์พระองค์ได้
มีพระอยู่องค์หนึ่ง…ชอบทำอะไรแปลกๆ…
วันหนึ่ง…พวกกรุงเทพฯ…เอากฐินไปทอดที่วัด…
จัดงานกันใหญ่โต…มีหนัง…มีลิเก…มีดนตรี…
ผู้คนแห่กันมามืดฟ้ามัวดิน…ก่อนทอดกฐิน…ผู้คนมารวมกันเต็มศาลา…
หลวงพ่อเรียกเด็กวัดมา…
บอกให้ไปเอาเนื้อจากโรงครัวมาก้อนหนึ่ง…แล้วเอาเชือกมาด้วย…
หลวงพ่อจัดการ…เอาเนื้อ…ผูกติดกับหลังหมา…
ผูกเสร็จ…ก็ปล่อยหมา…
มีชายคนหนึ่งที่ทนรำคาญเงาและรอยเท้าของตนเองไม่ได้ จนคิดจะเอาชนะสิ่งทั้งสองนี้
วิธีที่เขาใช้คือ วิ่งหนีจากสิ่งทั้งสองอย่างนี้ เขาจึงลุกขึ้นและวิ่งหนี แต่ทุกฝีก้าวที่เขาย่างลง
ก็มีรอยเท้าอีกแล้ว โดยที่เงาก็ติดตามไปทุกแห่ง
วันหนึ่งลูกสาวพร่ำบนถึงชีวิตอันแสนลำเค็ญให้พ่อฟังว่า เธอกำลังรู้สึกอับจนปัญญาที่จะจัดการกับชีวิตและปรารถนาที่จะยอมแพ้พ่าย ด้วยรู้สึกเหน็ดเหนื่อยจากการต่อสู้และการแข่งขัน ประหนึ่งว่าเมื่อสางปัญหาหนึ่งเสร็จสิ้น อีกปัญหาหนึ่งก็ก้าวเข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญ
ผู้เป็นพ่อซึ่งเป็นพ่อครัวจึงเดินนำเธอเข้าไปในครัว จัดแจงต้มน้ำในหม้อสามใบด้วยไฟแรงจนน้ำเดือด เขาใส่แครอทในหม้อใบแรก วางไข่ลงในหม้อใบที่สอง และตักกาแฟลงไปในหม้อใบสุดท้าย แล้วปล่อยให้มันต้มไปเรื่อยๆ โดยไม่มีคำอธิบายเลย