Zana เป็นเอปลึกลับที่มีลักษณะเหมือนมนุษย์ครึ่งลิงครึ่ง เธออาศัยอยู่ทางตอนใต้ของรัสเซีย ในตอนนั้นผู้ที่พบเห็นเผยว่าเธอไม่ใช่มนุษย์ เธอมีพลังงานมาก วิ่งเร็ว ว่ายน้ำเก่ง ในปี 1850 จึงมีการจับเธอขังไว้อยู่บริเวณเทือกเขาคอเคซัส ในประเทศรัสเซีย จนเสียชีวิตไปในปี 1890
เจ้าแม่วัดดุสิต นารีปริศนาผู้เป็นต้นราชวงศ์จักรี
ในช่วงปฐมวัยของเจ้าแม่วัดดุสิตยังคงเป็นที่คลุมเครืออยู่มาก เนื่องจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่กว่ารัชสมัยรัชกาลที่ 4 มิได้กล่าวถึงประวัติของเจ้าแม่วัดดุสิตไว้เลย จะมีก็ปรากฏหลักฐานเกี่ยวกับเจ้าแม่วัดดุสิตในพงศาวดารของไทยและจดหมายเหตุของชาวต่างชาติในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเท่านั้น หลักฐานที่พอจะศึกษาประวัติของเจ้าแม่วัดดุสิตอย่างละเอียดก็คงมีแต่บันทึกจากคำบอกเล่า หรือหลักฐานในชั้นทุติยภูมิ จึงมีนักประวัติศาสตร์ให้ความเห็นแตกต่างกันไปดังนี้
ชายผู้เดินทางโดยพัสดุ
กลางทศวรรษ 1960 เมื่อ เร็ก สเปียร์ส นักพุ่งแหลนชาวออสเตรเลียเดินทางมารักษาอาการบาดเจ็บที่กรุงลอนดอน ด้วยความหวังว่าจะเข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกส์ที่กรุงโตเกียวในปี 1964 แต่พอเขาตระหนักว่าเขามีเวลาเตรียมตัวไม่พอและคงอดลงแข่ง อีกทั้งใกล้จะถึงวันเกิดลูกสาวเข้ามาทุกทีเขาจึงเริ่มหางานทำที่คลังสินค้าในสนามบินเพื่อหาเงินซื้อตั๋วเครื่องบินกลับบ้านเกิดที่เมืองแอดิเลดในออสเตรเลีย
แต่โชคไม่เข้าข้างสเปียร์สเอาซะเลย เขาถูกขโมยกระเป๋าสตางค์ซึ่งทำให้เขาหมดตัวและต้องติดแหงกอยู่ที่ลอนดอน แต่สเปียร์สยังมีความหวังอยู่บ้าง เขาจำได้ว่าที่แผนกคลังสินค้ามีบริการส่งพัสดุทางอากาศแบบเก็บเงินปลายทาง แผนอันแยบยลของเขาจึงอุบัติขึ้น ถึงแม้ค่าส่งพัสดุจะแพงกว่าค่าตั๋วเครื่องบิน แต่สเปียร์สได้เตรียมทางหนีทีไล่ไว้อย่างดีเพื่อเลี่ยงค่าใช้จ่ายนี้
บุเรงนอง จูเลียส ซีซาร์ แห่งอุษาคเนย์
พระเจ้าบุเรงนองกะยอดินนรธา (บาเยงนอง ; บะยิ่นเหน่าว์จ่อถิ่นหน่อยะถ่า; 16 มกราคม 2059 – 10 พฤศจิกายน 2124) เป็นพระมหากษัตริย์พม่าจากราชวงศ์ตองอู เสวยราชย์ตั้งแต่ปี 2094 ถึงปี 2124 ทั้งเป็นพระมหากษัตริย์ไทย (อาณาจักรในยุคก่อน ตอนที่ยังไม่ได้รวมเป็นประเทศไทยเหมือนในปัจจุบัน) ล้านนา ล้านช้าง เงี้ยว และมณีปุระ
พระองค์ถือเป็นหนึ่งในสามมหาราชพม่าพร้อมด้วยพระเจ้าอโนรธามังช่อ แห่งราชวงศ์พุกาม และพระเจ้าอลองพญา แห่งราชวงศ์คองบอง สถานที่หลายแห่งในพม่าปัจจุบันตั้งชื่อตามพระนามพระองค์ ยังทรงเป็นที่รู้จักในประเทศไทยว่า “พระเจ้าชนะสิบทิศ” จากนวนิยายเรื่อง ผู้ชนะสิบทิศ ของยาขอบ
ป. พิบูลสงคราม “จอมพลตราไก่” ตอน 5 (จบ)
เด็กๆ ให้ความสนใจรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้ง จอมพล ป.พิบูลสงคราม ภายในพิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซ ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ กรุงเทพฯ ปัจจุบันความทรงจำเกี่ยวกับ จอมพล ป.ยังอยู่แต่ส่วนมากจะมีมิติของ “ผู้นำที่เด็ดขาด” เป็นจุดเน้นมากกว่าเรื่องอื่น
จอมพล ป. ยังไม่ตาย
๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๗–หลังวิกฤตการเมืองยืดเยื้อยาวนานกว่า ๖ เดือน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ก็ประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศ
ผมมาเยี่ยม “พระเจดีย์ศรีมหาธาตุ-วัดประชาธิปไตย” (วัดพระศรีมหาธาตุ) กรุงเทพฯ
ด้านในเจดีย์ ช่องเก็บอัฐิบุคคลสำคัญของ “คณะราษฎร” เรียงรายบนกำแพงซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเจดีย์ชั้นนอกที่ครอบเจดีย์องค์เล็กซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้
ภาพจอมพล ป. ถูกใครสักคนวางไว้ที่ประตูทางเข้าฝั่งทิศตะวันออกพร้อมประวัติย่อ กลางกำแพงฝั่งนั้น แผ่นหินอ่อนปิดที่บรรจุอัฐิจารึกชื่อ “จอมพล ป. พิบูลสงคราม…ท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงคราม”
ป. พิบูลสงคราม “จอมพลตราไก่” ตอน 4
จอมพล ป.เดินทางเยือนกองถ่ายทำภาพยนตร์ของฮอลลีวูด สหรัฐอเมริกา ระหว่างการเดินทางเยือน ๑๗ ประเทศรอบโลก
รัฐประหาร ๒๕๐๐
งานใหญ่ชิ้นสุดท้ายของจอมพล ป. คือโครงการฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษ (๒๕๐๐)
มีการแบ่งงานเป็นสามส่วน ส่วนแรก สร้าง “พุทธมณฑล” ในพื้นที่ ๒,๐๐๐ ไร่ให้เป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโดยสร้างพระพุทธรูปปางลีลาขนาดใหญ่เป็นประธานสถานที่ สอง สร้างถนนและสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่ม เช่น สะพานกรุงธน (ซังฮี้) นนทบุรี สร้างที่อยู่อาศัยโดยใช้ชื่อ “พิบูลฯ” สาม ฉลองพระนครที่ท้องสนามหลวง
อย่างไรก็ตามโครงการนี้คล้ายโครงการ “พุทธบุรีมณฑล” ที่สระบุรีในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ ซึ่งทำเพื่อกีดกันญี่ปุ่นไม่ให้ใช้พื้นที่จังหวัดสระบุรีซึ่งจะขัดขวางแผนยุทธการที่ ๗ โดยเป็นการ “เอาพระเข้าช่วย”
ป. พิบูลสงคราม “จอมพลตราไก่” ตอน 3
เสื้อเปื้อนคราบเลือดและมีรอยกระสุนของ พันเอก หลวงพิบูลสงครามทั้งชั้นในและนอกในวันที่ถูกลอบยิงที่ท้องสนามหลวง ปัจจุบันได้รับการเก็บรักษาที่มุม “จอมพล ป.พิบูลสงคราม” พิพิธภัณฑ์ อาคาร รร.จปร. ๑๐๐ ปี โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า
“มือปืน” และ “ยาพิษ”
หลังปราบกบฏ หลวงพิบูลฯ ได้รับยศเป็นพันเอก ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและรองผู้บัญชาการทหารบกในรัฐบาลของพันเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา ช่วงนี้เขาเผชิญการลอบสังหารถึงสามครั้ง
ป. พิบูลสงคราม “จอมพลตราไก่” ตอน 2
“อนุสาวรีย์ปราบกบฎ” หรือ “อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ” ซึ่งปัจจุบันถูกทำให้ลืมโดยเรียกว่า “อนุสาวรีย์หลักสี่”
นักเรียนทุน
หลังแต่งงาน ๓ เดือน ประจำปืน ๗ ครบ ๒ ปี ร้อยตรีแปลกก็ย้ายกลับพระนคร เรียนต่อในโรงเรียนเหล่าทหารปืนใหญ่ในกรมทหารปืนใหญ่ที่ ๑ รักษาพระองค์ (ปืน ๑) เขตบางซื่อ มีกำหนด ๒ ปี เมื่อเรียนจบก็ถูกส่งกลับปืน ๗ ก่อนโดนย้ายกลับพระนครอีกครั้งเพื่อประจำที่ปืน ๑ และเรียนในโรงเรียนเสนาธิการทหารบก
ที่โรงเรียนเสนาธิการทหารบกนี้เอง ร้อยตรีแปลกได้ฉายความโดดเด่นทางการเรียน โดย “คิดต่าง” ทางวิชาการกับหลวงชาตินักรบเพื่อนร่วมชั้นเสมอ เช่น ในการสอบแก้ปัญหายุทธวิธีครั้งหนึ่ง หลวงชาตินักรบตกลงกับเพื่อน ๆ ว่าจะตอบเหมือนกันโดยชูกำปั้นเป็นสัญญาณเข้าตี ลดกำปั้นลงหมายถึงตั้งรับ แต่เมื่อหลวงชาตินักรบและเพื่อน ๆ “เข้าตี” ร้อยตรีแปลกกลับเลือก “ตั้งรับ” และแก้สถานการณ์ไปตามความเป็นจริง
ป. พิบูลสงคราม “จอมพลตราไก่” ตอน 1
ร้อยตรี แปลก พิบูลสงคราม ขณะศึกษาวิชาทหารปืนใหญ่
๑๖ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๐๐
ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
๒๒.๐๐ น. เศษ เสียงโทรศัพท์ดังลั่นขณะที่บุรุษผมสีดอกเลารับสาย
“ทหารกำลังจะมาล้อมทำเนียบครับท่าน” เสียงปลายสายร้อนรน
เขาวางสาย รีบลงมาชั้นล่าง ฟอร์ดทันเดอร์เบิร์ดติดเครื่องรออยู่แล้วพร้อมเลขาส่วนตัว นายตำรวจติดตาม และนายทหารอีกคนหนึ่ง เขาเข้าไปนั่งในที่คนขับ บึ่งรถกลับไปที่บ้าน เก็บสัมภาระ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเปลี่ยนรถเป็นซีตรอง DS19 ที่ลุยทางทุรกันดารได้ดี หลังจากนั้นแวะซอยชิดลมยืมเงินลูกเขยแล้วมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก
ขุนแผน ในคำให้การชาวกรุงเก่า
ขุนแผนยุคอยุธยา ไม่มีขุนช้างและนางวันทอง เพราะเป็นตำนานวีรบุรุษ อยู่ในคำบอกเล่าชาวบ้านชาวเมืองยุคอยุธยา ที่เรียกเป็นทางการในภายหลังว่า “คำให้การชาวกรุงเก่า”
คำให้การชาวกรุงเก่า เป็นเอกสารภาษาพม่า ที่ทางการพม่าจดจากคำให้การชาวเชลยอยุธยาที่ถูกกวาดต้อนไปพม่าครั้งกรุงแตก พ.ศ. 2310 ต่อมาทางการไทยได้เอกสารนี้จากหอหลวงของพม่า แล้วแปลเป็นภาษาไทย
“พระเจ้าแผ่นดินพระองค์หนึ่งทรงพระนามว่า พระพันวษา ภาษาพม่าเรียกว่าพระเจ้าวาตะถ่อง แปลว่าสำลีพันหนึ่ง พระเจ้าแผ่นดินพระองค์นี้มีพระราชประวัติพิสดาร แต่กล่าวได้โดยเอกเทศ
พระองค์มีพระมเหสีทรงพระนามว่าสุริยวงศาเทวี มีพระราชโอรสองค์หนึ่งด้วยพระมเหสี มีพระนามว่าพระบรมกุมาร