นิราศเจ้าฟ้าอภัย

นิราศเจ้าฟ้าอภัย

เจ้าฟ้าอภัย ( โอรสของพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ ) เมื่อพระราชบิดาเสด็จสวรรคต พระองค์ได้ราชสมบัติ แต่ถูกเจ้าฟ้าพร พระเจ้าอา ซึ่งดำรงตำแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานมงคลสำเร็จโทษ พร้อมกับเจ้าฟ้าบรเมศร พระอนุชา เมื่อ พ.ศ. 2175 โคลงนิราศนี้พระยาตรังคภูมิบาล ในรัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์รวบรวมไว้ในหนังสือชื่อ โคลงกวีโบราณ แต่งด้วยโคลงสี่สุภาพ มีเหลืออยู่เพียง 25 บท กล่าวถึงการจากกรุงศรีอยุธยาไปลพบุรี ชมลพบุรี แล้วเดินทางไปทุ่งสมอคอน และวังวารี มีการรำพันถึงหญิงคนรักตลอด จบลงตอนบวงสรวงเทพารักษ์

 

โคลงนิราศเจ้าฟ้าอภัยแม้จะมีเหลืออยู่น้อยบท แต่เท่าที่มีอยู่แสดงให้เห็นว่ามีความไพเราะในลักษณะของนิราศให้ความรู้ทางประวัติศาสตร์ว่าเมื่อสิ้นรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแล้ว เมืองลพบุรีไม่ได้เป็นเมืองหลวงที่ 2 ของกรุงศรีอยุธยาอีกต่อไป

๏ เก้าคํ่ายํ่ารุ่งร้น  เรืองแสง
พลแห่พัตราแลง  เถือกก้า
ฆ้องคึกบันดาลแสยง  เสียงปี่
หน้าพี่ตรวจถ้วนหน้า  ขาดหน้านางเดียว ฯ

๏ มาเห็นเกาะพระแล้ว   ลาลด
เสี่ยงซึ่งความรันทด    ทอดไม้
เห็นไม้ไม่ปรากฏ    คือแม่ มานา
โรคบ่เบียนน้องไข้    พี่ไข้ใจถึง ฯ

๏ มาถึงเจ้าปลุกปลํ้า   ใจนัก
ด้วยบวรองค์อัค-      เรศสร้าง
เจ้าปลุกพี่ปลุกรัก     เรียมจาก
จากแม่เปล่าอ้างว้าง    วุ่นว้างอารมณ์ ฯ

๏ สุริยนลี้เลื่อนใกล้    อัษฏางค์
พอพี่ถับถึงบาง     โขมดเข้า
แซ่เสียงกินรนาง    นาริศ
เรียมคำนึงถึงเจ้า   จากเจ้าจำไกล ฯ

๏ มาถึงประเทศไท้   บางไทร
ทางทุรัศสถานใจ   สุดซั้น
สมรเดียวยิ่งมาไศล   คลาจาก กงนา
กงดั่งกงจักรกั้น    กีดกั้นกันสมร ฯ

๏ นพบุรีบุเรศเจ้า   กรุงอยุท ธยาแฮ
นารายณ์พิษณุภุช   สืบสร้าง
เรียมรํ่าก็รํ่าสุด   แรงพี่ แล้วแฮ
เมืองก็ร้างเจ้าร้าง   พี่ร้างมานอน ฯ

๏ แปดคํ่ายํ่ารุ่งแล้ว   คลามา
นพบุรีรมยา   ท่านยั้ง
แสนสนุกจะหา   หายาก
น้องก็ย่อมแจ้งครั้ง   ก่อนโพ้นมีมา ฯ

๏ พิศโพธิ์สามต้นเติบ  ตายสอง
ยังแต่เดียวดูหมอง   หม่นเศร้า
อกเรียมก็ปูนปอง   ปานเปรียบ โพธิ์แม่
กลพี่จากเจ้าเคล้า    คู่คล้ายโพธิ์คนึง ฯ

๏ มาดลตำบลบ้านท้าย   โพแดง
แตงบแดงเลยแดง   อกชํ้า
ชํ้าใจทุราแลง   ลิ่วจาก
จากแม่ไปหนำซํ้า   เร่งซํ้าทรวงถวิล ฯ

๏ กาหลหรทึกแล้   เสียงสังข์
เรียมบฟังเลยฟัง   ข่าวน้อง
ฆ้องคึกบันดาลหวัง   เสียงเสนํห์
เสนํห์มารุมรึงข้อง   ขุ่นข้องอารมณ์ ฯ

๏ มาถึงประเทศท้าย   เกาะเรียน
ใจตระขวิดตระเขวียนเวียน   วุ่นเข้า
เวรานุเวรเวียน   บำราศ แล้วแฮ
จักนิราทุกข์เท้า   ตราบสิ้นกรรมเรียม ฯ

๏ เดินดัดลัดทุ่งบ้าน  สมอคอน
เรียมก็คอนทุกข์สมร    ใช่น้อย
วังราชบ่นอนนอน    เนินป่า
บ้านป่าฝาแฝกห้อย   ร่างไร้รุงรัง ฯ

๏ เห็นวังวาริศร้าง   ริมแคว นํ้านา
พระนครหลวงแล   เปล่าเศร้า
วังราชฤมาแปร   เป็นป่า
เกรงจะแปรใจเจ้า   ห่วงแล้วลืมเรียม ฯ

๏ แคฝอยข่อยข่าคล้า  ยางคาง
วัลวาขานางซาง   หน่อป้อ
ปริงปรูหูกวางปราง  ปรงเปราะ
ลางลิงจิงจ้อค้อ   ข่าคล้าตระคองคลอง ฯ

๏ ระกำแกมจากต้น   เตยหนา
ต้นตระบูมเเกมตา   ตุ่มไห้
จากศรีอยุธยามา  ลิ่วโลด ใจแฮ
วังบ่เห็นเห็นไม้   ม่วงพร้าวแกมสลา ฯ

๏ มลิวันวรแนบไว้   วางเขนย
ซับซาบวรเรียมเชย  ไป่ม้วย
ขจรกลิ่นรสรำเพย   ผายสวาท
เอฤนุชมาด้วย    แซ่งเว้เวียนหนี ฯ

๏ ขอจงเสร็จแก้วพี่   กายกลม
ทันกลับคืนพลันสม    เสน่ห์ด้วย
ความสนุกนิจเล่นรมย์   หลายท่า
ขอจงปู่เจ้าฉ้วย    เสร็จแล้วเรียมถวาย ฯ

๏ เจว็ดประดิษฐแกล้ง   เกลาเพรา
ฉัตรและธงเฉลาเปลา     ปลอดเสี้ยน
มาลาลเวงเสา-    วคนธ์กลิ่น ขจรแฮ
หอมตระการรสเพี้ยน   ผิดไม้ไพรสณฑ์ ฯ

๏ ปู่เจ้าเขาท่าท้อง   ไพรสณฑ์
ปู่เจ้าถํ้าธารพน   เวศกี้
ปู่เจ้าฮ่วยหนองหน     ใดแห่ง นี้นา
มารับสังเวยชี้    ซึ่งชี้เชิญถวายฯ

๏ เทพาพฤกษชาติเรื้อง   รำบาญ
อารักษ์รักษาสถาน   ที่นี้
อากาศเทวาวาน    เมตรภาพ เรียมนา
ภูมเทวาชี้   ช่วยให้นางเห็น ฯ

๏ ขอจงเสร็จกลับได้   ดวงสาย สวาทนา
เรียมจะพลันจงถวาย   เกือบกั้ง
พวงเงินพวงทองบาย   ศรีมาศ
ใส่ศาลเพียงตาตั้ง    แต่งให้สมบูรณ์ ฯ

๏ ข้าโรงข้าศาลนั้น   อย่าถวิล
กลแต่เอียงไหริน   เล่าล้อม
ฉีกกัดมัจฉมางส์กิน   แกมจอก
จอบจิบหยิบแกล้มพร้อม   เพริศคิ้วพลางเผยอ ฯ

๏ เหล้าเข้มไหใหญ่ตั้ง   เติมกลาง
หมูเป็ดปากทองวาง   เตียบตั้ง
แกะแพะชุมภามางส์   แกมไก่
เต่างูหนูปลากั้ง   กบกุ้งปูหอย ฯ

๏ เก้าบทเพื่อนยากนี้   ตกไฉน
ย่อมตกตามกันไป    ทั่วเท้า
ดงรังทเลไกล   กลางป่า ก็ดี
เห็นก็สุดแต่เก้า   บทนี้แนมนอน ฯ

๏ อัศจรรย์บารนี่หน้า  โหรา
กาฤทำรังกา   ที่แจ้ง
ฉัตรไชยใช่พฤกษา  กาไข่
เป็นนิมิตรเทพสร้าง  ส่งให้ศุภผล ฯ

ที่มา: https://my.dek-d.com/thailith/writer/viewlongc.php?id=905840&chapter=5

Leave a Reply