อคิลลีส ที่มาแห่งชื่อเอ็นร้อยหวาย

เมื่ออคิลลีสเกิด ธีทิสได้จุ่มร่างของบุตรลงในแม่น้ำสติกส์ เพื่อให้คงกระพัน ร่างกายของอคิลลีสจึงแข็งแกร่ง ไม่มีอาวุธใดทำอันตรายได้ อย่างไรก็ดีขณะนางจุ่มร่างบุตร ธีทิสใช้มือกุมข้อเท้าบุตรไว้ ดังนั้นทั่วร่างอคิลลีสจึงมีเพียงข้อเท้าที่ไม่ได้อาบน้ำศักดิ์สิทธิ์ เป็นจุดอ่อน ซึ่งในภาษาอังกฤษมีสำนวนว่า”Achilles’ heel” หมายถึง จุดอ่อน
อคิลลีสได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดแห่งนักรบ เป็นผู้ที่มีฝีมือการต่อสู้ฉกาจฉกรรจ์มาก เมื่ออักกะเมมนอนรวบรวมทัพเพื่อยกไปตีเมืองทรอย จึงได้เชิญตัวอคิลลีสไปด้วย มีคำพยากรณ์ว่า กรีกไม่มีวันเอาชนะทรอยได้หากปราศจากอคิลลีส กระนั้นก็มีคำพยากรณ์สำหรับอคิลลีสว่า เขาจะสิ้นชีวิตหากสังหารแม่ทัพทรอย คือ เฮกเตอร์
อคิลลีสไปถึงเมืองทรอยด้วยอายุเพียง 10 ขวบ และตั้งกองทัพอยู่ชายฝั่งเมืองทรอยนานถึง 15 ปี ระยะแรกอคิลลีสยังไม่มีความมุ่งมาดที่จะเอาชนะ จนกระทั่งเปรโตคัส เพื่อนรักอย่างยิ่งของอคิลลิส ถูกเฮกเตอร์สังหาร อคิลลิสจึงมีโทสะอย่างมากในการรบ จึงได้ขอดวลเดี่ยวกับเฮกเตอร์เพื่อล้างแค้นและสามารถสังหารเฮกเตอร์ได้ และลากศพของเฮกเตอร์ไปรอบ ๆ เมืองทรอยด้วยรถม้าเป็นการประจาน และอคิลลีสก็ถูกสังหารจริง ๆ ตามคำทำนายด้วยลูกธนูที่เอ็นร้อยหวายจากการยิงของปารีส ชื่อของเอ็นร้อยหวายหรือ Achilles tendon จึงได้มาจากชื่อของอคิลลีส
ส่วนตำนานของคนไทยที่เรียกว่า “เอ็นร้อยหวาย” ซึ่งตามคำบอกเล่าว่า ทาสในสมัยก่อนโดนเจาะข้อเท้า แล้วเอาหวายร้อยเข้าระหว่างเอ็นกับตาตุ่ม แล้วร้อยโยงติดกันหลายคน เพื่อไม่ให้หนีรอดไปไหนได้ เนื่องจากหากเอ็นส่วนนี้ขาด จะไม่สามารถเดินได้ ถ้าจะตัดหวายที่ร้อยไว้ก็ทำได้ยาก ดังนั้นเราจึงเรียกว่า “เอ็นร้อยหวาย” ในปัจจุบันนั่นเอง
ที่มา: Wikipedia