ผานกู่ เทพบิดรแห่งชนชาติชาวจีน

ผานกู่ เทพบิดรแห่งชนชาติชาวจีน

640px-Pangu

เมื่อแรกเริ่มไม่มีสิ่งใดในจักรวาลเลยนอกจากความสับสนวุ่นวาย ต่อมาความวุ่นวายนั้นรวมตัวกันเข้าเป็นไข่จักรวาลใบหนึ่งเป็นเวลา 18,000 ปี ภายในนั้นคือหยินและหยางที่สมบูรณ์แบบและสมดุล

ผานกู่ถือกำเนิดในไข่ใบนั้น คำพรรณนาถึงผานกู่มักว่าเป็นยักษ์มีขนดก มีเขาอยู่บนศีรษะ ร่างคลุมไปด้วยขน

ผานกู่เริ่มต้นสร้างโลกโดยแยกหยินและหยางออกโดยการจามด้วยขวานยักษ์ของเขา หยินกลายเป็นโลก และหยางกลายเป็นท้องฟ้า เพื่อให้ทั้งสองแยกกันตลอดไป ผานกู่จึงยืนขวางระหว่างทั้งสองส่วนไว้แล้วดันท้องฟ้าขึ้นไป ขั้นตอนนี้ใช้เวลา 18,000 ปี แต่ละวันท้องฟ้าสูงขึ้น 10 เชียะ (3 เมตร) และโลกก็กว้างขึ้น 10 เชียะ ผานกู่ก็สูงขึ้น 10 เชียะ เรื่องเล่าบางแห่งบอกว่าในระหว่างการสร้างโลกนี้มีสัตว์ใหญ่ 4 ชนิดมาช่วย คือ เต่า, กิเลน, หงส์ และมังกร

หลังผ่านไป 18,000 ปี ผานกู่เหน็ดเหนื่อยมาก จึงล้มลงขาดใจตาย ลมหายใจกลายเป็นสายลม เสียงกลายเป็นสายฟ้า ตาซ้ายเป็นดวงอาทิตย์ ตาขวาเป็นดวงจันทร์ ร่างกายกลายเป็นเทือกเขาและที่ราบสูงส่วนใหญ่ของโลก เลือดกลายเป็นแม่น้ำ กล้ามเนื้อเป็นผืนดินอันอุดมสมบูรณ์ หนวดเคราเป็นดวงดาวและทางช้างเผือก ขนเป็นพุ่มไม้และป่าไม้ กระดูกเป็นแร่ธาตุมีค่า ไขกระดูกเป็นเพชร เหงื่อกลายเป็นฝน และเหลือบไรบนขนตามร่างกายกายไปเป็นปลาและสัตว์ต่างๆ บนแผ่นดิน ทุกสิ่งของผานกู่ได้กลายเป็นสิ่งต่างๆบนโลกหมด

จากนั้น เมื่อผ่านไปเนิ่นนาน เทพธิดาหนี่ว์วา แห่งดวงจันทร์ได้ลงเยี่ยมชมโลก นางได้เอาดินโคลนมาปั้นเป็นรูปมนุษย์ มนุษย์เหล่านี้ฉลาดหลักแหลมเพราะถูกประดิษฐ์ขึ้นทีละคน แต่ต่อมาหนี่ว์วาเหน็ดเหนื่อยในการสร้างทีละคน นางจึงเอาเชือกมาจุ่มน้ำโคลนและสะบัดออกไป โคลนเหล่านี้กลายเป็นมนุษย์อีกกลุ่มหนึ่งซึ่งไม่ฉลาดเหมือนกลุ่มแรก

นักเขียนคนแรกที่บันทึกปกรณัมผานกู่คือ สวีเจิ่ง (徐整) ในระหว่างยุคสามก๊ก

ที่มา: http://th.wikipedia.org/wiki

Leave a Reply