มรณสักขีแห่งสองคอน

มรณสักขีแห่งสองคอน

E8085335-28

100 กว่าปีก่อน บ้านสองคอนถูกบุกเบิกโดยข้าราชการยศท่านขุน พร้อมข้าทาสบริวารอีกหลายสิบชีวิต แต่อยู่ไปอยู่มา ผู้คนก็เริ่มเจ็บไข้ได้ป่วย โดยเชื่อว่าเป็นผลมาจาก “ผีดุ” หรือ “เจ้าที่แรง” จึงมีผู้เชิญบาทหลวงฝรั่งที่นครพนม ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการ “ไม่กลัวผี” ให้เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหา

หลวงพ่อท่านนั้นแก้ปัญหาด้วยการรักษาอาการป่วยแก่ชาวบ้าน แล้วจึงสอนให้พวกเขารับหลักความเชื่อของศาสนาคริสต์
นอกจากนี้ ยังมีคนอีกสองกลุ่มที่ขอมาอาศัยในบ้านสองคอน และยอมเข้ารีตเป็นคริสตชน นั่นก็คือ ชาวบ้านซึ่งถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้านอื่น เพราะถูกกล่าวหาว่าเป็น “ผีปอบ” และบรรดาผู้เคยตกเป็นทาส ที่ได้รับการไถ่ตัวจากบาทหลวง

ช่วงปลายปี พ.ศ. 2483 ได้เกิดกรณีพิพาทอินโดจีนขึ้นระหว่างประเทศไทยกับประเทศฝรั่งเศส คริสตจักรโรมันคาทอลิกในประเทศไทย ซึ่งขณะนั้นอยู่ในความดูแลของบาทหลวงชาวฝรั่งเศสคณะมิสซังต่างประเทศแห่งกรุงปารีส จึงถูกตั้งข้อรังเกียจไปด้วย การเบียดเบียนคริสต์ศาสนิกชนเกิดขึ้นหลายแห่งทั่วประเทศ รวมทั้งที่หมู่บ้านสองคอน จังหวัดนครพนม ซึ่งชาวบ้านทั้งหมดเป็นชาวคาทอลิก บาทหลวงปอล ฟีเก อธิการโบสถ์แม่พระไถ่ทาสซึ่งเป็นโบสถ์ประจำชุมชน ได้ถูกขับออกนอกประเทศ ครูสีฟอง อ่อนพิทักษ์ และซิสเตอร์อีก 2 คน คือ ซิสเตอร์พิลา ทิพย์สุข ซิสเตอร์คำบาง สีคำพอง จึงช่วยกันดูแลความเชื่อของชาวบ้านแทน การเบียดเบียนยังคงรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ มีซิสเตอร์ถูกข่มขืน รูปศักดิ์สิทธิ์ถูกเหยียดหยามทำลาย ครูสีฟองจึงเขียนจดหมายร้องเรียนไปยังนายอำเภอมุกดาหาร แต่จดหมายนั้นกลับตกไปอยู่ในมือของตำรวจ ตำรวจจึงเขียนจดหมายปลอมว่านายอำเภอให้ครูสีฟองไปพบ ตำรวจลือ เมืองโคตร และตำรวจหน่อ พาครูสีฟองออกจากบ้านสองคอนตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม พอเช้าวันที่ 16 ตำรวจลือก็ยิงครูสีฟองเสียชีวิตที่บ้านพาลุกา นับเป็นชาวไทยคาทอลิกคนแรกที่ได้พลีชีพเป็นมรณสักขี

14518960591451896144l

เมื่อครูสีฟองเสียชีวิต ชาวบ้านก็หวาดผวาไม่กล้าทำศาสนกิจตามปกติ ตำรวจยังคงเรียกประชุมชาวบ้านแล้วสั่งให้เปลี่ยนศาสนา แต่มีคริสตชน 8 คนยืนยันจะไม่ละทิ้งความเชื่อ ได้แก่

ซิสเตอร์อักแนส พิลา ทิพย์สุข
ซิสเตอร์ลูซีอา คำบาง สีคำพอง
นางสาวอากาทา พุดทา ว่องไว
นางสาวเซซีลีอา บุดสี ว่องไว
นางสาวบีบีอานา คำไพ ว่องไว
เด็กหญิงมารีอา พร ว่องไว
เด็กหญิงมารีอา สอน ว่องไว
นางสาวเซซีลีอา สุวรรณ

ในวันที่ 26 ธันวาคม ทั้งหมดจึงถูกตำรวจเรียกไปที่สุสานประจำชุมชน นายกองสี บิดาของนางสาวสุวรรณได้ตามมาพาบุตรสาวกลับบ้าน จึงเหลือผู้ยอมพลีชีพ 7 คน ทั้ง 7 นั่งอธิษฐานที่ขอนไม้แล้ว พวกตำรวจจึงใช้ปืนยิงแต่ละคนจนเข้าใจว่าเสียชีวิตหมดแล้วจึงกลับไป ชาวบ้านที่เข้าไปดูศพพบว่ามีเด็กหญิงสอนคนเดียวที่รอดชีวิต และช่วยกันฟังศพมรณสักขีทั้ง 6 คนที่ป่าช้านั้น นับเป็นมรณสักขีชาวไทยคาทอลิกคนที่ 2-7 ตามลำดับ

คริสต์ศาสนิกชนนิกายโรมันคาทอลิกชาวไทย 7 คน ที่ถูกตำรวจยิงเสียชีวิตเพราะไม่ยอมเลิกนับถือศาสนาคริสต์ ทั้ง 7 คนได้รับการยกย่องจากคริสตจักรโรมันคาทอลิกว่าเป็นมรณสักขี และได้รับการประกาศเป็นบุญราศีพร้อมกันโดยสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 ณ มหาวิหารนักบุญเปโตร นครรัฐวาติกัน เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2532 นับเป็นคริสตชนชาวไทยกลุ่มแรกที่ได้เป็นบุญราศี

ที่มา: wikipedia, http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1451896059

Leave a Reply