หิกะยัต ปันหยี สะมิหรัง (อิเหนาต้นฉบับ) ตอนที่ 8: อิเหนาพบกำบูจินตะหรา
เมื่ออิเหนายกไพร่พลมาถึงเมืองกาหลัง (อยู่ในเครืออสัญแดหวา) แล้วก็ตั้งปะสังคราหันพักไว้ กิตติศัพท์ความหล่อของระเด่นหนุ่มแพร่กระจายไปทั่ว จนระตูกาหลังมีความสงสัยว่าจะมาดีหรือร้าย จึงแต่งขบวนออกพบ
หากเมื่อได้พบอิเหนาและซึมซับออร่าความหล่อแล้ว ระตูกาหลังให้ปลาบปลื้มใจยิ่งนัก จึงออกปากรับอิเหนาเป็นบุตรบุญธรรม โดยมิได้ถามไถ่ความเป็นมา ส่วนอิเหนาก็กั๊กไม่ยอมบอกความจริงว่าเป็นญาติกัน ไม่รู้เพราะอะไร
ระตูกาหลังนั้นมีบุตรชายชื่อระเด่นสิงหมนตรี เป็นคนหน้าตาขี้เหร่ ปัญญาโฉดเขลา ระเด่นสิงหมนตรีมาถึงงานเลี้ยงต้อนรับอิเหนา เห็นแขกใหม่หน้าตาหล่อก็อิจฉา เดินบ่นออดแอดว่ามันหล่อกว่าตูตรงไหนทำไมมีแต่คนชม พอดีผ่านโต๊ะกลุ่มพี่เลี้ยงของอิเหนา เกิดโมโหแย่งข้าวเขากินหน้าตาเฉย
พี่เลี้ยงของอิเหนาเห็นตลกดี จึงแกล้งบอกว่า “ระเด่นอย่าเป็นห่วง เรามียาดี จะทำให้ท่านหล่อเหลาเหมือนนายเรา”
ระเด่นสิงหมนตรีดีใจถามว่าอะไร พวกพี่เลี้ยงก็บอกว่ายานี้มีราคาแพง ท่านต้องจ่ายด้วยราคาสูงถึงจะได้ สิงหมนตรีก็ใจป้ำ ถอดแก้วถอดแหวนยกให้ ถอดคราหนึ่ง พวกพี่เลี้ยงก็ยอคราหนึ่งว่าหล่อขึ้นๆ เป็นเช่นนี้วนเวียนจนหมดตัว
…สรุปว่าสิงหมนตรีอิ่มใจว่าหล่อขึ้นมากมาย ส่วนพวกพี่เลี้ยงฟันทรัพย์เปรม…
(ระเด่นมนตรีมีตำแหน่งเป็นสีโตคก (ตัวตลก) เรื่องช่วงที่เขาออกมาคือบทตลกแทรก เหมือนเวลาท่านดูโขน ก็อาจเคยเห็นบทตลกแทรกบ้าง)
… … …
ข้างฝ่ายจินตะหราและคณะ ถูกบีกู คัณฑะส่าหรีชักนำเข้าสู่วงการบันเทิง ได้เป็นดารา มีชื่อในวงการว่า กำบู (นักร้อง) “จินตะหรา พูนลาภ” พวกนางจึงออกเดินสายเปิดคอนเสิร์ตมาถึงเมืองกาหลัง
ปรากฏว่าเพียงเปิดคอนเสิร์ตขึ้นไม่กี่ครั้งก็เป็นที่นิยมชาวเมืองกาหลังอย่างยิ่ง จินตะหรามีลูกคอ 9 ชั้น หางเครื่องแต่ละนางก็เซิ้งได้ถูกอกถูกใจมิตรรักแฟนเพลง สร้างชื่อเสียงขจรไกล
ในงานคอนเสิร์ตครั้งหนึ่ง ซึ่งมีบริวารอิเหนาเข้าชมด้วย จินตะหราได้จัดหนักด้วยเพลงที่ฮิตที่สุด
“แตงโม แตงโม แตงโม
แตงโม ลูกโต รสหวาน
ใครรับประทาน ถูกอกถูกใจ
แตงโมจินตหรามาใหม่
แตงโมจินตหรามาใหม่
ผ่าดูข้างใน เนื้อแดงจ่ายหวาย
วันนี้มาขายราคาไม่แพง!
วันนี้มาขายราคาไม่แพง!
เอาไหมชิมไหมพี่จ๋า
เอาไหมชิมไหมพี่จ๋า
แตงโมจินตหราเปลือกบางเนื้อแดง
เอาไหมขายให้ไม่แพง
เอาไหมขายให้ไม่แพง
เนื้อในไม่แดง ยอมให้กินฟรี
พิสูจน์เลยพี่ ไม่ดีไม่เอาเงิน!
พิสูจน์เลยพี่ ไม่ดีไม่เอาเงิน!”
บริวารอิเหนาม่วนซื่นยิ่งนัก ถึงกับเผลอเซิ้งตามไปด้วย จึงคิดกันว่านี่เป็นการแสดงระดับสูงที่คู่ควรกับอิเหนานายตน ชอบจะเอาไปรำถวาย
พวกเขาเข้าติดต่อคณะกำบูหลังการแสดงจบ เกนบาหยันซึ่งเป็นผู้จัดการบอกว่า “ถ้าให้เปิดคอนเสิร์ต มีค่าเครื่องเสียงและหางเครื่องแปดสุกู ค่าตัวดาราสิบสองสุกู (สุกูคือหน่วยเงินอินโดนีเซียโบราณ)”
บริวารอิเหนาเห็นว่าแพงนัก แต่ไม่เป็นไรตัวเองไม่ใช่คนจ่าย ยังคงจัดการให้คณะของจินตะหราเข้าไปเล่นละคอน (การแสดง คือคำเดียวกับละครนั่นเอง) ในวัง
…นับเป็นบุพเพสันนิวาสที่คู่รักซึ่งพลัดพรากได้กลับเจอกันโดยบังเอิญ
…โอ ในที่สุดจินตะหราในคราบกำบู ก็ได้พบปะมุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้ง กับอิเหนาในคราบโจร (ซึ่งเปลี่ยนแค่ชื่อไม่มีเมคอัพใดๆทั้งสิ้น)
ทั้งสองเกือบจะจำกันได้แล้ว แต่เกนบาหยันได้มาสะกิดให้พวกเขามองไปทางนอกวังก่อน
ที่นั่นพวกเขาเห็นปิรามิดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างงดงามวิจิตรด้วยรายได้จากคอนเสิร์ต
…ภายในมีมัมมี่แห่งเหตุผลบรรจุอยู่…
…ด้วยเหตุนี้อิเหนาจินตะหราจึงจำกันไม่ได้ และทุกคนยังเข้าใจว่ากำบูจินตะหราเป็นผู้ชายอีกด้วย…
…
…
…แม้จำไม่ได้ แต่ทั้งสองแค่จ้องตาประสานออร่าก็ปิ๊งกันอีก
กำบูจินตะหราเห็นอิเหนามานั่งชมกับสองสนมนาหวัง นิลวาตี นางคิดอิจฉาจึงเลือกร้องเพลง “ชีวิตฉันขาดเธอไม่ได้” อันฮอตฮิต
“…นอนกอดความเหงาในวันที่เค้าไม่มา
อยากโทรไปหาก็กลัวภรรยาของเธอรับสาย
นอนรอความหวัง ที่ได้แค่หวังอย่างไรจุดหมาย
คนโสดก็มีถมไป ไม่รู้ทำไมต้องรักแฟนเขา…”
อิเหนาเห็นกำบูหนุ่มมีรูปโฉมวิไลแน่งน้อย ผิวขาวเหลืองนวลเหมือนผลลังซัต (ลางสาด) เพียงฟังเพลงนี้ก็ให้สะทกสะท้อน อยากเข้าไปประคองกอดจูบยาราไนก้ากับกำบูหนุ่ม แต่เกรงใจว่าเมียนั่งดูอยู่ถึงสองคน
…หารู้ไม่ว่าก้าโหละนิลวาตี กับนาหวังเห็นความหล่อเหลาสง่างามของกำบู ก็พากันน้ำลายไหล เกิดจิตพิศวาสปราถนาจะเอามาเป็นสามีน้อยเช่นกัน…
พอการแสดงจบทั้งหมดจึงเข้าไปรุมติดต่อกำบู
อิเหนาใช้สิทธิ์ผู้นำแย่งตัวจินตะหรามาก่อน แล้วพาขึ้นเตียง พลอดรักๆ บอกว่าเนี่ยถ้าเป็นผู้หญิงพี่จับทำเมียไปแล้ว แต่เมื่อเป็นผู้ชายก็จะนอนหลับด้วยกันแบบลูกผู้ชาย (มันแค่นอนเตียงเดียวกันไม่มีอะไรเกินกว่านั้นจริงๆนะครับ)
จินตะหราก็บ่ายเบี่ยงๆบอกว่าอย่าเลยฮะเจ้าฮะ ผมเป็นเพียงผู้ต่ำต้อยมะงุมมะงาหราผ่านมาน่าสงสาร หาควรเป็นเพื่อนกับเจ้าฮะไม่
ขณะที่อิเหนาจะรุกต่อ พอดีมีข่าวระตูปูดัก สะตะคัล และระตูล่าสำซึ่งเป็นญาติกับระตูจรกา เกิดความแค้น พากันยกทัพมาประชิดเมืองกาหลัง บังคับให้ระตูกาหลังส่งอิเหนามาสำเร็จโทษ
อิเหนาจึงจำใจต้องออกช่วยสู้รบป้องกันเมือง ขณะที่จินตะหราในคราบกำบูหนุ่มได้แต่นั่งเซ็ง
…นางหารู้ไม่ว่า ในเงามืดนั้น ก้าโหละนาหวัง และนิลวาตีกำลังวางแผนงาบนางอยู่…
…เรื่องราวความรักอันชุลมุนวุ่นวายบนแผ่นดินมลายูจะดำเนินต่อไปอย่างไร โปรดติดตาม…