คนฉลาดกินเนื้อ
ชายสองคนได้ยินมาว่าคนกินเนื้อมักฉลาดกว่าคนกินผัก
ด้วยความที่อยากฉลาด ทั้งสองจึงนำเงินทั้งหมดที่ตนเองมีมาเทรวมกัน
แล้วก็พากันไปตลาด สั่งอาหารที่ปรุงจากเนื้อมากินจนอิ่มหนำ
“แกฉลาดหรือยัง” ชายคนแรกถามชายคนที่สอง
“ไม่รู้สิ” ชายคนที่สองตอบ
ชายคนแรกส่ายหน้า “แกตอบไม่ได้ แสดงว่าแกยังไม่ฉลาด”
“ถ้าอย่างนั้น เรากินเนื้อเพิ่มกันอีกเถอะ” ชายคนที่สองออกปากชวน
ทั้งสองทำท่าจะสั่งให้เจ้าของร้านปรุงอาหารจากเนื้อมากินอีก
แต่แล้วก็นึกได้ว่าเงินที่ทั้งสองเทมารวมกันมีพอแค่จ่ายอาหารเพียงมื้อเดียว
“ฉันจะขโมยเนื้อที่แขวนอยู่ในตู้ เจ้าของร้านเดินไปหลังร้านแล้ว” ชายคนที่สองบอก
พูดจบทั้งสองก็เดินไปหยิบก้อนเนื้อที่แขวนอยู่ลงมา แล้วก็พยายามยัดเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ
ค่าที่ก้อนเนื้อมีขนาดใหญ่กว่ากระเป๋าเสื้อ ทั้งสองจึงใช้เวลายัดอยู่นาน นานจนเจ้าของร้านเดินออกมา
“ขโมย ขโมย” เจ้าของร้านร้องขึ้น ชายสองคนตกใจจึงทิ้งเนื้อแล้วก็วิ่งหนีไป
ทั้งสองหนีมายืนหลบอยู่ข้างตลาด
“ถ้าเจ้าของร้านตามมา เราจะทำอย่างไรดี” ชายคนแรกบอกเสียงสั่น
“นั่นสิ เขาคงทำร้ายเราแน่เลย” ชายคนที่สองเสียงสั่นไม่แพ้กัน
“เราไปหาผู้ใหญ่บ้านกันดีไหม เขาจะได้ไม่กล้าทำร้ายเรา” ว่าแล้วทั้งสองก็เดินไปบ้านผู้ใหญ่บ้าน
ที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน ชายสองคนได้พบเจ้าของร้านอาหารที่รอมาแจ้งความเรื่องขโมยเนื้อ
“ฉันไม่ได้ขโมยเนื้อใครนะ” ชายคนแรกพูดประโยคแรกทันที
ชายคนที่สองเสริม “ในกระเป๋าของฉันก็ไม่มีเนื้อเลย เห็นไหม”
เจ้าของร้านได้ยินดังนั้นก็ถามว่า “ถ้าแกไม่ขโมยแล้วแกวิ่งหนีทำไม”
ชายสองคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก “ทำไม”
แล้วชายคนแรกก็พูดขึ้นมาเบาๆ “เห็นไหม เรายังไม่ฉลาดเพิ่มขึ้นเลย เพราะเราตอบเขาไม่ได้”
“ผู้ใหญ่” ชายคนแรกยื่นมือให้ผู้ใหญ่บ้านมัด
“ฉันยอมติดคุกในข้อหาขโมยเนื้อ แต่ขออะไรสักอย่างได้ไหม ขอเนื้อให้ฉันสองคนกินสักมื้อหนึ่ง”
ในที่สุด หลังจากที่กินเนื้อย่างที่ผู้ใหญ่บ้านจัดให้จนพุงกาง ชายสองคนก็ยอมให้ผู้ใหญ่พาไปติดคุก
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป
ระหว่างที่กินอาหารในคุก ชายคนแรกก็พูดขึ้น “แกฉลาดขึ้นหรือยัง”
ชายคนที่สองส่ายหน้า “กินแต่ข้าวแดงกับผักอย่างนี้ จะฉลาดขึ้นได้อย่างไร”
“ฉันอยากออกไปจากคุก” ชายคนแรกบอก
“แต่ถ้าเราโง่อย่างนี้ เราคงคิดหาวิธีออกจากคุกไปไม่ได้”
“ฉันมีวิธี” ชายคนที่สองกระซิบ
“ทำอย่างไร”ชายคนแรกเอียงหน้าเข้ามาฟังใกล้ๆ
“ถ้าเรากินเนื้อ เราจะฉลาดขึ้นถูกไหม” ชายคนที่สองพูด “ดังนั้น เราต้องหาเนื้อมากินให้ได้”
ชายคนแรกมองหน้าชายคนที่สอง
“ฉันรู้สึกว่าแกฉลาดขึ้นนะ ต้องเป็นเพราะเนื้อย่างมื้อนั้นของผู้ใหญ่แน่ๆเลย
ว่าแต่เราจะหาเนื้อจากที่ไหนในคุกอย่างนี้เล่า”
รุ่งเช้า พัศดีถูกปลุกให้ตื่นขึ้นจากเสียงร้องอันเจ็บปวดของชายสองคน
และทันทีที่วิ่งมาถึงห้องขังของชายทั้งสอง พัศดีก็ต้องตกใจระคนแปลกใจในภาพที่เห็น
ชายคนแรกกำลังกัดแขนชายคนที่สองอยู่เลือดเต็มปาก
ส่วนชายคนที่สองก็ไม่แพ้กัน ปากยังคงกัดคาอยู่ที่น่องของชายคนแรก
ทั้งสองกำลังกินเนื้ออยู่
นิทานล้านบรรทัด
ประภาส ชลศรานนท์
ที่มา: Facebook