อภิมหาเศรษฐีเกือบจะชราผู้หนึ่ง สุดแสนจะภูมิใจ ที่ลูกชายวันห้าขวบของเขา กำลังจะได้เข้าเรียนในโรงเรียนชื่อดัง ซึ่งระดับเศรษฐีอย่างพวกเขาเท่านั้น จึงจะมีปัญญาส่งลูกหลานเข้าเรียนในโรงเรียนนี้ได้ โดยส่วนตัวของเขาเอง ก็อยากจะสอนให้ลูกชายรู้จักกับชีวิตจริงในโลก ควบคู่ไปกับการสอนทฤษฏีในโรงเรียน
พระใบลานเปล่า (พระโปฐิลเถระ)
ในสมัยพุทธกาล มีพระสาวกองค์หนึ่งชื่อ ตุจโฉโปฏฐิละ เป็นผู้คงแก่เรียน แตกฉานในคำสอนของพระพุทธองค์ เมื่อท่านอธิบายธรรม ก็ไม่มีใครกล้าพูดหรือเถียงท่าน เป็นที่นับหน้าถือตาโดยทั่วไปวันหนึ่ง ท่านไปกราบทูลถามพระพุทธเจ้า ขณะก้มลงกราบ พระพุทธองค์ได้ตรัสว่า
“มาแล้วหรือ พระใบลานเปล่า”
เมื่อท่านเสร็จกิจทูลลากลับ พระพุทธองค์ก็ตรัสอีกว่า
“กลับแล้วหรือ พระใบลานเปล่า”
เต่าตายเพราะปาก (กัจฉปชาดก)
ครั้งหนึ่งเมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่วันเชตวัน เมืองสาวัตถี ทรงปรารภพระโกกาลิกะผู้เดือดร้อนเพราะปาก ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดเป็นอำมาตย์ผู้สอนธรรมแก่พระเจ้าพรหมทัตผู้ครองเมืองพาราณสี โดยปกติพระราชาเป็นคนพูดมาก อำมาตย์พยายามหาอุบายกล่าวตักเตือนพระองค์อยู่แต่ก็ยังหาไม่ได้
เสือกับสิงโต (มาลุตชาดก ว่าด้วยการถือความคิดเห็นของตนเป็นใหญ่)
……ครั้งหนึ่งในสมัยพุทธกาล มีพระหลวงตาสองรูปชื่อ พระกาฬะ และพระชุณหะ ทั้งสองรูปตั้งใจปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดอยู่ในป่าแห่งหนึ่งในเขตชนบท แคว้นโกศล อย่างไรก็ดี พระทั้งสองรูปยังติดนิสัยตั้งแต่สมัยเป็นฆราวาสมาคนละอย่าง คือ พระชุณหะชมชอบความงามของพระจันทร์เต็มดวงข้างขึ้น ส่วนพระกาฬะชอบมองหมู่ดาวที่ส่องแสงระยิบระยับจับตาในคืนข้างแรม
สักวันหนึ่ง
ทุกวันนี้เรามีตึกสูงขึ้น มีถนนกว้างขึ้นแต่ความอดกลั้นน้อยลง
เรามีบ้านใหญ่ขึ้น แต่ครอบครัวของเรากลับเล็กลง
เรามียาใหม่ ๆ มากขึ้น แต่สุขภาพกลับแย่ลง
เรามีความรักน้อยลง แต่มีความเกลียดมากขึ้น
เหยือกเต็มหรือยัง
ชายหนุ่มคนหนึ่งได้รับเชิญจากมหาวิทยาลัยเอกชน เพื่อให้เป็นวิทยากรพิเศษสอนวิชาปรัชญาให้กับนักศึกษาปริญญาโท เขาเตรียมการสอนอยู่หลายวันจึงตัดสินใจจะสอนนักศึกษาเหล่านั้นด้วยแบบฝึดหัดง่ายๆ แต่แฝงไว้ด้วยข้อคิด
เขาเดินเข้าห้องเรียนมาพร้อมด้วยของสองสามอย่างบรรจุอยู่ในกระเป๋าคู่ใจ
เมื่อได้เวลาเรียน เขาหยิบเหยือกแก้วขนาดใหญ่ขึ้นมา แล้วใส่ลูกเทนนิสลงไปจนเต็ม
“พวกคุณคิดว่าเหยือกเต็มหรือยัง?” เขาหันไปถามนักศึกษาปริญญาโท
แต่ละคนมีสีหน้าตาครุ่นคิดว่าอาจารย์หนุ่มคนนี้จะมาไม้ไหนก่อนจะตอบพร้อมกัน “เต็มแล้ว…”
กบเลือกนาย
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีกบฝูงหนึ่งอาศัยอยู่ในทะเลสาบกันอย่างอิสระเสรี และมีความสุขเรื่อยมา แต่อยู่มาวันหนึ่ง ซึ่งก็เป็นเหมือนกับทุก ๆ วัน ที่พวกกบจะออกมารวมกลุ่มและส่งเสียงร้อง
” โอ๊บ..โอ๊บ ๆๆๆ ”
แข่งประสานเสียงกันอย่างที่เป็นมาตามปกติ และในที่นั้นก็ได้มีกบตัวหนึ่ง ออกความคิดเห็นขึ้นมาว่า
” ทำไม? พวกเราถึงได้มีเสียงร้องที่แสนจะห่วย อย่างนี้ก็ไม่รู้นะ ดูสิ จะพยายามดัดหรือหนีบเสียงเท่าไหร่ ๆ ก็ ไม่เห็นว่าจะไพเราะขึ้นมาได้เลยสักน้อยนิด ยังไง ๆ ก็ยังออกมาเป็นเหมือนเดิมอยู่นั่นแหละคือ ” โอ๊บ..โอ๊บ ๆๆๆ ” ได้อย่างเดียวจริง ๆ ”
กบตัวอื่น ๆ จึงเข้ามาสมทบ ” ใช่เลยหละ…ดูอย่างพวกนกสิ จะร้อง ” จิ๊บ ๆๆ จิ๊กกุๆๆ ” แสนที่จะไพเราะ ” ” หรืออย่างพวกแมลงไง มันจะส่งเสียง ” ริน ๆๆๆ ” ที่แสนจะไพเราะ ว่าไหม…ว่าไหม พวกเรา… ” กบทุกตัวให้มีความเห็นพ้องต้องกันไปหมดทุกตัวเลยก็ว่าได้
งานแต่งงานล่วงหน้าด้วยรักจากพ่อ
หลังจากแพทย์ได้วินิจฉัยว่า Fred Evans จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่เดือน
เขาจึงตัดสินใจมอบของขวัญพิเศษให้กับลูกสาวสองคนที่ยังไม่แต่งงาน
(ลูกสาวคนหนึ่งของ Fred ได้แต่งงานไปก่อนหน้านี้แล้ว)
เขาเดินจูงมือลูกสาวโสดทั้งสองคนไปตามทางเดินโบสถ์คริศต์ศาสนา
แล้วอวยพรสำหรับชีวิตสมรสของพวกเธอในอนาคต
เมื่อมองทะลุวัตถุนิยม
ชายแก่คนนั้นทำงานในบริษัท แต่เขาไม่มีโทรศัพท์มือถือ ไม่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่มีคนขับรถ ขับรถคันเก่าไปไหนมาไหนด้วยตัวเอง
เขาไม่ใช่คนยากไร้ ตรงกันข้ามเขาเป็นคนร่ำรวยอันดับที่สามของโลก* (2007) ประมาณว่า ความร่ำรวยราวห้าหมื่นสองพันล้านดอลลาร์ ด้วยเงินของเขาสามารถซื้อเครื่องบินส่วนตัวได้หลายลำ แต่เขาไม่เคยเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว เขาอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดิมที่เขา ซื้อเมื่อครึ่งศตรรษที่แล้ว กินอาหารง่าย ๆ ใช้ชีวิตง่าย ๆ การหย่อนใจของเขาคือ นอนดูโทรทัศน์รายการโปรดบนโซฟา กินข้าวโพดคั่วที่ทำเอง
เขาไม่ใช่คนขี้เหนียว ตรงกันข้ามเขาเพิ่งบริจาคเงิน 83 เปอร์เซ็นต์ของเขาให้องค์กรการกุศล (ประมาณสามหมื่นล้านดอลลาร์) เป็นเงินบริจาคที่สูงที่สุดก้อนหนึ่งในประวัติศาสตร์ ชายแก่คนนั้นชื่อ วอร์เรน บัพเฟตต์
“วอร์เรน บัฟเฟตต์” เริ่มทำงานครั้งแรกกับพ่อตอนอายุสิบ เอ็ดขวบ เป็นงานนายหน้าค้าหุ้น ปีนั้นเขาซื้อหุ้นตัวแรก คือหุ้น ซิตีส์ เซอร์วิสเซส หุ้นละ 38.25 เหรียญ เขาขายเมื่อหุ้นขึ้นถึง 40 เหรียญ และไม่กี่ปีต่อมามันขึ้นถึง 200 เหรียญ สิ่งนี้สอนให้เขาเห็นค่าของการลงทุนกับหุ้นที่ดีในระยะยาว