
มีชายคนหนึ่งที่ทนรำคาญเงาและรอยเท้าของตนเองไม่ได้ จนคิดจะเอาชนะสิ่งทั้งสองนี้
วิธีที่เขาใช้คือ วิ่งหนีจากสิ่งทั้งสองอย่างนี้ เขาจึงลุกขึ้นและวิ่งหนี แต่ทุกฝีก้าวที่เขาย่างลง
ก็มีรอยเท้าอีกแล้ว โดยที่เงาก็ติดตามไปทุกแห่ง

มีชายคนหนึ่งที่ทนรำคาญเงาและรอยเท้าของตนเองไม่ได้ จนคิดจะเอาชนะสิ่งทั้งสองนี้
วิธีที่เขาใช้คือ วิ่งหนีจากสิ่งทั้งสองอย่างนี้ เขาจึงลุกขึ้นและวิ่งหนี แต่ทุกฝีก้าวที่เขาย่างลง
ก็มีรอยเท้าอีกแล้ว โดยที่เงาก็ติดตามไปทุกแห่ง

วันหนึ่งลูกสาวพร่ำบนถึงชีวิตอันแสนลำเค็ญให้พ่อฟังว่า เธอกำลังรู้สึกอับจนปัญญาที่จะจัดการกับชีวิตและปรารถนาที่จะยอมแพ้พ่าย ด้วยรู้สึกเหน็ดเหนื่อยจากการต่อสู้และการแข่งขัน ประหนึ่งว่าเมื่อสางปัญหาหนึ่งเสร็จสิ้น อีกปัญหาหนึ่งก็ก้าวเข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญ
ผู้เป็นพ่อซึ่งเป็นพ่อครัวจึงเดินนำเธอเข้าไปในครัว จัดแจงต้มน้ำในหม้อสามใบด้วยไฟแรงจนน้ำเดือด เขาใส่แครอทในหม้อใบแรก วางไข่ลงในหม้อใบที่สอง และตักกาแฟลงไปในหม้อใบสุดท้าย แล้วปล่อยให้มันต้มไปเรื่อยๆ โดยไม่มีคำอธิบายเลย

“ผมขอโทษครับ คุณเซ็นเตอร์ แต่เราไม่สามารถออกใบขับขี่ใหม่ให้คุณได้ถ้าไม่ได้ตรวจดูเลขประกันสังคมของคุณก่อน”
เป็นครั้งที่เท่าไหร่ที่ฉันต้องอดทนเพื่อพยายามอธิบายว่า ฉันไม่มีบัตรประกันสังคมแล้ว มันถูกขโมยไปที่สถานีรถไฟพร้อมใบขับขี่ กระเป๋าเงิน บัตรเครดิต บัตรธนาคาร เงินสดกับรูปถ่ายลูกของฉัน ยังไม่เลวร้ายพออีกหรือที่ฉันต้องมาที่นี่วันนี้ ฝ่าการจราจรมาต่อแถวยาวน่าเบื่อที่ทุกคนนึกอยากไปอยู่ที่อื่นแทนที่นี่กันทั้งนั้น ฉันดึงเบอร์บัตรคิว และรอเรียกตัวอยู่เพียงเพื่อจะได้รับฟังว่า
“วันนี้ เครื่องคอมพิวเตอร์ดาวน์ครับ แต่คุณจะไปรับใบขับขี่ที่สำนักงานอีกแห่งของรัฐได้ ไปทางตะวันออกสักยี่สิบกิโลเมตร ออกจากทางหลวง 290 ก็ถึงครับ”
ทั้งหมดเพื่อความผิดที่ฉันไม่ได้ก่อสักนิด ฉันยังคงประสาทเสียเมื่อนึกถึงว่ามีคนแปลกหน้าคนหนึ่งเดินฝ่าฝูงชนที่รีบร้อนในช่วงหลังคริสต์มาสที่สถานียูเนียน แล้วกล้าหาญชาญชัยพอที่จะเปิดกระเป๋าถือของฉันและขโมยกระเป๋าเงินไป ความไม่สะดวกทั้งหลายทั้งปวงไม่ได้คลี่คลายลงเอยวันนี้เมื่อฉันมาที่นี่ เพียงเพื่อจะพบว่าฉันยังต้องขับรถต่อไปอีก ทีแรกขับเข้าเมืองไปสามสิบนาทีเพื่อขอรับบัตรประกันสังคม แล้วขับอีกครึ่งชั่วโมงไปยังสำนักงานแห่งที่สองด้วยความหวังว่าที่นั่นคอมพิวเตอร์จะทำงาน ยังกับว่าฉันไม่มีอะไรดีกว่านี้จะทำแล้วอย่างนั้นแหละ

กาลครั้งหนึ่ง มีมีดโกนหนวดสวยอันหนึ่งทำงานอยู่ในร้านตัดผมวันหนึ่งไม่มีลูกค้าเลย มันจึงออกจากด้ามไปผึ่งแดดเมื่อมันเห็นพระอาทิตย์ส่องแสงสะท้อนใบมีดราวกับกระจกมันมีความรู้สึกภูมิใจในประกายของมันมากดังนั้น เมื่อมันหวนคิดถึงอดีตที่เป็นเพียงมีดโกนหนวด จึงรำพันว่า”วันหนึ่ง ข้าจะกลับไปในร้านที่ข้าเพิ่งจะออกมาหยก ๆ ไหมนะ” ไม่แน่ ๆ!พระผู้เป็นเจ้าคงไม่โปรดแน่เลยที่ความงามเจิดจ้าจะกลับไปโกนหนวดที่ฟอกสบู่แล้วของผู้คนหยาบคายน่าเกลียดเหล่านั้น !
มีเด็กกลุ่มหนึ่งเล่นกันใกล้รางรถไฟ 2 ราง
รางหนึ่งอยู่ในระหว่างการใช้งาน ในขณะที่อีกรางหนึ่งไม่ได้ใช้งานแล้ว
มีเพียงเด็กคนเดียวเท่านั้นที่เล่นบนรางที่ไม่ได้ใช้งาน
ส่วนเด็กที่เหลือนั่งเล่นอยู่บนรางที่ยังใช้งานอยู่

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเศรษฐีอยู่ผู้เขาหนึ่งมีลูกชายเป็นคนไม่รักดี ชอบแต่ที่จะเที่ยว กิน เล่น เลี้ยงเพื่อนฝูง ไม่เคยนึกที่จะทำมาหากินเลย บิดามารดาจะว่ากล่าวตักเตือนอย่างไรก็หาได้เชื่อฟังไม่
ในที่สุดเศรษฐีคนนั้นก็ตรอมใจตาย แต่ก่อนที่จะตายไปนั้นได้เอาเงินกับทองใส่ไว้ในตุ่มอย่างละตุ่มฝังไว้ และด้วยคุณงามความดีเขาที่ได้สั่งสมมา ส่งผลให้เศรษฐีได้ไปเกิดเป็นเทวดา
เหล่าลูกศิษย์ถามพระอาจารย์ว่า “ทำอย่างไรถึงจะประสบความสำเร็จ”
อาจารย์จึงพูดว่า “วันนี้พวกเราจะเรียนเรื่องธรรมดาๆและง่ายที่สุด”
ให้ทุกคนแกว่งแขนไปข้างหน้าให้สุด แล้วแกว่งไปข้างหลังให้สุดเช่นกัน พระอาจารย์สาธิตให้ดู พร้อมกับกำชับว่า “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ให้แกว่งแขนวันละ 300 ครั้ง ทุกคนทำได้หรือเปล่า ?”

มีชาวนาผู้หนึ่ง ต้องการหาซื้อที่ดินสักหนึ่งผืน เขาได้ยินมาว่ามีคนต้องการขาย จึงได้เดินทางไปพบเพื่อติดต่อขอซื้อ เมื่อไปถึง ชาวนาจึงได้เอ่ยถามคนผู้นั้นว่า “ที่ดินของท่านขายอย่างไร?”
ผู้ที่ต้องการขายที่ดินตอบว่า “ขอเพียงท่านมอบเงินให้ข้า 1000 ตำลึงเท่านั้น จากนั้นให้เวลาท่านหนึ่งวันเต็มๆ นับจากพระอาทิตย์ขึ้นจนกระทั่งพระอาทิตย์ตก ให้ท่านออกเดินเท้าไปรอบๆ ที่ดิน หากท่านสามารถเดินวนไปได้ไกลเท่าไหร่ ที่ดินเหล่านั้นล้วนนับเป็นของท่าน แต่หากว่าท่านเดินทางกลับมายังจุดเริ่มต้นไม่ทันพระอาทิตย์ตกดิน ท่านจะไม่ได้ที่ดินแม้แต่ตารางนิ้วเดียว”
นักลงทุนชาวอเมริกันนายหนึ่ง กำลังยืนอยู่บนท่าเรือ
ของชายฝั่งหมู่บ้านเม็กซิกันแห่งหนึ่ง
ขณะที่มีเรือประมงลำหนึ่งกำลังแล่นเข้ามาจอด
แล้วเขาก็ได้เห็นปลาโอครีบเหลืองตัวโต ๆ
กองอยู่บนเรือลำนั้น

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ประเทศจีน ..
ยังมีชาวนาคนหนึ่งเป็นคนที่มีนิสัยขยันขันแข็ง
หลังจากทำไร่ไถนาตั้งแต่เช้าจนเที่ยง ทำให้ชาวนา
รู้สึกเหน็ดเหนื่อย จึงได้เดินไปนอนเล่นพักเหนื่อย
อยู่ใต้ร่มเงาหน้าผาใกล้ ๆ