ที่ว่างที่เดียว
เรือสำราญลำหนึ่งเจอมรสุมทางทะเล
บนเรือมีสามีภรรยาคู่หนึ่ง กระเสือกกระสนมาถึงเรือชูชีพ
บนเรือชูชีพมีเพียงที่ว่างที่เดียว
ทันใดนั้น…..สามีผลักภรรยาไปข้างหลัง
ตัวเองโดดขึ้นไปบนเรือชูชีพ
ภรรยายืนอยู่บนเรือที่ค่อยๆจมลง
ตะโกนไปที่สามีประโยคหนึ่งว่า……………….
เล่าถึงตอนนี้อาจารย์ถามนักเรียน:
พวกเธอเดา, ผู้หญิงตะโกนว่าอะไร
พวกนักเรียนต่างโกธรเกรี้ยว
ต่างพูดว่า. ฉันเกลียดคุณ ฉันมันตาบอด
ณ. บัดดล อาจารย์สังเกตุเห็นนักเรียนคนหนึ่งไม่พูดไม่จาตลอดเวลา
ก็เลยถามเขานักเรียนคนนี้พูดว่า
อาจารย์ หนูคิดว่าผู้หญิงคงจะตะโกนว่า—ดูแลลูกเราให้ดีดีนะคะ
อาจารย์ตกใจ ถามว่า
เธอเคยได้ยินนิทานเรื่องนี้แล้ว ใช่ไหม
นักเรียนสั่นหัว
“ไม่เคย แต่ตอนแม่หนูป่วยหนักก่อนตาย ได้พูดแบบนี้กับพ่อหนูค่ะ”
อาจารย์ซึ้งใจและพูดว่า….
คำตอบถูกต้องเรือจมลงไปแล้ว
ผู้ชายกลับไปถึงบ้านเลี้ยงดูบุตรสาวตามลำพังจนโต
หลายปีผ่านไป……ผู้ชายป่วยตาย
ลูกสาวจัดข้าวของของพ่อพบไดอารี่ของพ่อ
ที่แท้……พ่อกับแม่ไปเที่ยวเรือสำราญ
แม่ก็ป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย
เงื่อนเวลาแห่งความเป็นความตาย
พ่อฉวยโอกาสเดียวที่จะรอดชีวิต
เขาเขียนในไดอารี่ว่า
ฉันอยากจะจมลลงใต้ท้องทะเลพร้อมเธอ
แต่ฉันทำไม่ได้เพื่อลูกสาว
ฉันจำต้องให้เธอนอนหลับยาวอยู่ใต้ทะเลลึก!!
“อย่าตัดสินคนอื่นแบบผิวเผินถ้าคุณไม่ได้อยู่ในจุดๆนั้น”
นิทานเล่าจบ……ห้องเรียนเงียบกริบ
อาจารย์รู้ว่านักเรียนต่างก็เข้าใจนิทานเรื่องนี้กันหมดแล้ว
ความดีและความชั่วในโลกนี้บางครั้งดูสับสนไม่ชัดเจนแยกแยะไม่ออก
เพราะฉะนั้น…..อย่าตัดสินคนอื่นแบบผิวเผิน
คนที่ชอบแย่งจ่ายบิลก่อนไม่ใช่เพราะมีเงินมากไป
แต่….เขาให้ความสำคัญของมิตรภาพมากกว่าเงินทอง!!
เวลาทำงาน คนที่ยินดีทำมากกว่าคนอื่น
ไม่ใช่เขาโง่แต่…เขารู้หน้าที่!!
หลังจากทะเลาะกัน คนที่ขอโทษก่อน
ไม่ใช่เขาผิดแต่……เขารู้จักทนุถนอมคนข้างกาย!!
คนที่ยอมช่วยเหลือคุณไม่ใช่ติดค้างอะไรคุณ
แต่….เขาเห็นคุณเป็นเพื่อนแท้!!
ที่มา: google+