ทำไม error ของโปรแกรมจึงเรียกว่า BUG

ทำไม error ของโปรแกรมจึงเรียกว่า BUG

คำว่า “บั๊ก” สำหรับ error ของโปรแกรม มาจากเหตุการณ์ในปี ค.ศ. 1947 เมื่อ Grace Hopper โปรแกรมเมอร์หญิงชาวอเมริกัน พบแมลงตัวเล็ก (moth) ติดอยู่ในรีเลย์ของคอมพิวเตอร์ Harvard Mark II แมลงตัวนี้ทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร ส่งผลให้เกิด error ในการทำงานของโปรแกรม

เหตุการณ์นี้ทำให้ Grace Hopper เปรียบเทียบ error ของโปรแกรมกับแมลงตัวเล็ก และเธอใช้คำว่า “bug” เพื่ออธิบายปัญหาที่เกิดขึ้น ต่อมาคำว่า “bug” ก็ถูกใช้แพร่หลายในวงการคอมพิวเตอร์ เพื่อเรียก error ของโปรแกรม หรือจุดบกพร่องในซอฟต์แวร์

เหตุผลที่ใช้คำว่า “bug” มีดังนี้:

  • แมลงตัวเล็กเป็นสิ่งมีชีวิตที่แทรกซึมเข้ามาในระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ควรอยู่ตรงนั้น เช่นเดียวกับ error ของโปรแกรมที่ไม่ใช่สิ่งที่ควรเกิดขึ้น
  • แมลงตัวเล็กสามารถสร้างปัญหาใหญ่ให้กับระบบคอมพิวเตอร์ เช่นเดียวกับ error ของโปรแกรมที่อาจส่งผลร้ายแรงต่อการทำงาน
  • การค้นหาและกำจัดแมลงตัวเล็กออกจากระบบคอมพิวเตอร์ เป็นสิ่งที่ยากลำบาก เช่นเดียวกับการหาสาเหตุและแก้ไข error ของโปรแกรม

ปัจจุบันคำว่า “bug” มีความหมายกว้างขึ้น หมายถึง:

  • ข้อผิดพลาดในโปรแกรม หรือจุดบกพร่องในซอฟต์แวร์
  • ปัญหาที่ทำให้โปรแกรมทำงานไม่ถูกต้อง
  • ข้อบกพร่องในฮาร์ดแวร์

คำอื่นๆ ที่ใช้แทน “bug” ได้แก่:

  • error
  • defect
  • fault
  • glitch
  • problem

สรุป:

คำว่า “bug” ถูกใช้เรียก error ของโปรแกรม มาจากเหตุการณ์ที่ Grace Hopper พบแมลงตัวเล็กในคอมพิวเตอร์ คำว่า “bug” สื่อถึงสิ่งที่แทรกซึมเข้ามาในระบบ และสร้างปัญหาให้กับระบบ การใช้คำว่า “bug” ช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์เข้าใจปัญหาและแก้ไขได้ง่ายขึ้น

ที่มา: Gemini

Leave a Reply