1200-1300 ปีก่อนคริสต์ศักราช สงครามโทรจัน อคิลีส แฮ็คเตอร์ ปารีส เฮเลน (ตำนาน)

588 ปีก่อนคริสต์ศักราช เจ้าชายสิทธัตถะทรงตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าตอนอายุ 35 พระชันษา

1200-1300 ปีก่อนคริสต์ศักราช สงครามโทรจัน อคิลีส แฮ็คเตอร์ ปารีส เฮเลน (ตำนาน)

588 ปีก่อนคริสต์ศักราช เจ้าชายสิทธัตถะทรงตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าตอนอายุ 35 พระชันษา


ชื่อหมู่บ้าน Omyakon = The Pole Of Cold หนาวสุดขั้วโลก
ชาวบ้านใน Oymyakon ต้องอยู่กับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
มีบ้านจำนวนน้อยหลังมากที่มีประปาในบ้านตนเอง
เพราะความหนาวเย็นทำให้ท่อประปาแตกได้
จากน้ำในท่อที่แข็งจนกลายเป็นน้ำแข็ง
รถยนต์ต้องอุ่นอยู่ในอู่จอดรถยนต์แทนการจอดข้างนอก
มีปลาและเนื้อสัตว์ที่เป็นอาหารหลักในฤดูหนาวเท่านั้น
ส่วนพืชผักผลไม้ปลูกไม่ได้เลยในพื้นที่แห่งนี้

1. Share your knowledge. It’s a way to achieve immortality.
จงแบ่งปันความรู้ของคุณ เพราะมันเป็นทางเดียวที่จะทำให้มันคงอยู่ตลอดไป
2. When someone asks you a question you don’t want to answer, smile and ask, Why do you want to know?
เมื่อเจอคำถามที่ไม่อยากตอบ แค่ยิ้มให้ผู้ถาม และถามกลับไปว่า “คุณอยากรู้ไปทำไมเหรอ?”
3. Never laugh at anyone’s dreams.
อย่าดูถูกเยาะเย้ยความฝันของคนอื่น
4. Read more books and watch less TV.
ดูทีวีให้น้อยลง อ่านหนังสือให้มากขึ้น
5. Remember the three R’s: Respect for self, Respect for others, Responsibility for all your actions.
จดจำสามอย่างที่สำคัญ: จงนับถือตัวเอง นับถือผู้อื่น และรับผิดชอบการกระทำทุกอย่างของตน
6. Spend some time alone.
ใช้เวลาอยู่กับตัวเองบ้าง
![1419736023-1061550473-o[1] 1419736023-1061550473-o[1]](https://3thai.tomwork.net/wp-content/uploads/2014/12/14197360231061550473o1.jpg)
ในแผ่นดินชวามีกษัตริย์ที่สืบเชื้อสายจากเทพเจ้าหรือที่เรียกว่าวงศ์อสัญแดหวาอยู่สี่เมืองได้แก่ กุเรปัน ดาหา กาหลัง และสิงหัดส่าหรี ในจำนวนนี้เมืองกุเรปันมีพระโอรสคือระเด่นอิเหนา มีความหล่อเหลาสง่างามมาก ส่วนเมืองดาหามีพระธิดาชื่อบุษบาก้าโหละ มีสิริโฉมงดงามมากเช่นกัน พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายจับให้หมั้นกันแต่เด็ก

กิระดังได้สดับมาถึงเรื่องราวอันพิสดารเหลือพรรณาของท่านดาโต๊ะ
หลังจากมีข้าศึกมาประชิดเมือง ทำให้อิเหนาพลาดโอกาสจับกำบูจินตะหราพูนลาภยาราไนก้า ท้าวเธอจำต้องกลั้นพระอัสสุชล ถือพระแสงกริชกาละมิตานี ขี่มหาอาชาไนยรังคะรังคิตออกปกป้องแผ่นดิน
ลับหลังอิเหนานั้น ก้าโหละนาหวัง และนิลวาตีเห็นเป็นโอกาสจึงเข้าไปผลัดกันกันยั่วยวนกำบูจินตะหรา เรียกให้มาเปิดคอนเสิร์ตในวัง พร้อมกับประทานทรัพย์สมบัติต่างๆมากมาย หวังเอากำบูรูปงามมาเป็นชู้รัก กำบูจินตะหราก็เพียงเซิ้งลูกทุ่งไปตามหน้าที่ แต่มิได้แสดงอาการรักตอบพวกนางเลย
เมื่ออิเหนาปราบศัตรูเสร็จ ได้ลูกสาวศัตรูที่เป็นตัวประกอบเจือจางจนผมขี้เกียจเขียนชื่อมาเป็นเมียอีกสองคน จึงกรีฑาทัพกลับเมืองกาหลัง

เมื่ออิเหนายกไพร่พลมาถึงเมืองกาหลัง (อยู่ในเครืออสัญแดหวา) แล้วก็ตั้งปะสังคราหันพักไว้ กิตติศัพท์ความหล่อของระเด่นหนุ่มแพร่กระจายไปทั่ว จนระตูกาหลังมีความสงสัยว่าจะมาดีหรือร้าย จึงแต่งขบวนออกพบ
หากเมื่อได้พบอิเหนาและซึมซับออร่าความหล่อแล้ว ระตูกาหลังให้ปลาบปลื้มใจยิ่งนัก จึงออกปากรับอิเหนาเป็นบุตรบุญธรรม โดยมิได้ถามไถ่ความเป็นมา ส่วนอิเหนาก็กั๊กไม่ยอมบอกความจริงว่าเป็นญาติกัน ไม่รู้เพราะอะไร

หลังจากอิเหนาทราบจากมหาเดหวีว่า แท้แล้วปันหยีสะมิหรังนั้นหาใช่ใครไม่ นอกจากคู่ตุนาหงันของตนเอง ท้าวเธอก็ให้มีจิตพิศวาสกลัดกลุ้มรุมเร้า ด้วยเห็นจินตะหราซึ่งมีความสับสนทางเพศนี้เหมาะสมกับตนยิ่งนัก

ข้างฝ่ายเมืองดาหา เมื่ออาหยังได้แต่งงานกับอิเหนาแล้วก็ให้รื่นเริงบันเทิงฤดียิ่งนัก ถึงแก่กลิ้งไปมารอบอิเหนามิได้ขาด ส่วนอิเหนานั้นกลับเบื่อหน่าย ด้วยท้าวเธอชอบผู้ชายหาชอบผู้หญิงแด๊ดแด๋ไม่ สักพักพอเบื่อมากๆก็ต้องหยิบผ้ารัดตัวปันหยีสะมิหรังขึ้นมาดมฟืดหนึ่ง พอให้หายคิดถึง
อาหยังสังเกตว่าสามีเมินตน อุตส่าห์แต่งหน้าทาปาก ใส่เสื้อผ้าสวยๆมายั่ว แต่อิเหนาก็ยังเฉย ในที่สุดนางจึงต้องไปกลิ้งใส่เสด็จแม่ลิกู เพื่อขอให้ชี้ทางสว่าง

มาจะกล่าวบทไปตามเรื่องเล่าพิสดารของดาโต๊ะ (ท่านอาจารย์) เมื่อระเด่นอิเหนาทราบข่าวสินสอดทองหมั้นซึ่งส่งไปสู่ขอก้าโหละจินตะหรา กลับถูกกะละหนา ปันหยี สะมิหรังช่วงชิงไปสิ้น หทัยท้าวเธอก็ให้นึกพิโรธนัก จึงหยิบพระแสงกริชคู่กายนามกาละมิตานี ขึ้นควบม้าคู่ใจนามมหาอาชาไนยรังคะรังคิต กะเกณฑ์ไพร่พลยกออกไปกำราบเสี้ยนแผ่นดิน

หลังจากจินตะหราถูกพ่อและเมียน้อยกดขี่ทำร้ายจิตใจอย่างหนัก นางเคียดแค้นจนกลายเป็นโรคจิต จึงหลบออกจากเมืองปลอมตัวเป็นกะละหนา (โจรชั่ว) นามปันหยี สะมิหรัง ออกปล้นฆ่าจับผู้คนมาเป็นทาสบำเรอความสุขตนเอง
ระตูแห่งมันตาหวันซึ่งเป็นเมืองเล็กๆแถวนั้น ทราบข่าวกะละหนาอาละวาดให้ราษฎรเดือดร้อน จึงกะเกณฑ์ไพร่พลเป็นกองทัพใหญ่ ให้ดะหมัง และตำมะหงง (ตำแหน่งขุนนาง) นำทัพปราบโจร
ดะหมังตำมะหงงยกไปถึงเมืองของปันหยี พบกุดาประวีระ และกุดาปะรันจาเฝ้ากำแพงอยู่ จึงบุกเข้าจู่โจมอย่างดุร้าย!