Tag: สงคราม

บันทึกลับเจ้าพระยาบดินทร์เดชาฯ ตอน 7

พระองค์เจ้าขุนเณร ปรมาจารย์การรบกองโจร แห่งศึกลาดหญ้า

ศึกละแวก

กรมหมื่นนเรศร์โยธี กรมหมื่นเสนีบริรักษ์ แม่ทัพใหญ่ ได้รู้ข่าวที่กองม้าเร็วคอยเหตุมากราบทูลนั้นแล้ว ก็ทรง พระวิตกเกรงเกลือกว่าสยามจักทำการรักษาค่ายไว้ไม่ได้ ก็จักเสียค่ายแก่ทัพลาวครั้งนี้เหมือนเสียค่ายหลวงด้วย เพราะค่ายหลวงตั้งชิดกับ ค่ายหน้า เพราะฉนั้นกรมหมื่นทั้งสองพระองค์จึ่งรีบร่งยกกองทัพขึ้นไปโดยเร็ว ปรารถนาจักช่วยทัพหน้าที่ถูกข้าศึก ลาวล้อมไว้นั้นให้ทัน ท่วงที จึ่งไม่ทันทรงระวังสองข้างทางที่เสด็จขึ้นไป แต่พอทัพกรมหมื่นทั้งสองพระองค์เถิงกลางทางในป่าดงตะเคียน อันเป็นที่ซุ่มกำลัง ของ ทัพลาว กองทัพสยามจึ่งเข้าสู่วงล้อมของทหารไพร่พลลาว

Read More

บันทึกลับเจ้าพระยาบดินทร์เดชาฯ ตอน 6

โปรดเกล้าฯ ให้ พระยาราชสุภาวดี เป็นแม่ทัพใหญ่ฝ่ายตะวันออก

v-suranaree

ทางเจ้าพระยานครราชสีมา เมื่อหนีออกจากเมืองขุขันธ์นั้นได้ไปตั้งพักพล ครัวสยามอยู่ในกลางป่า ครั้นรู้ว่าบ้านเมืองของตนเสียแล้วแก่เจ้าอนุ คิดจักยกกองทัพกลับมาสู้รบกับลาวบ้างก็ไม่ได้ เพราะคนในกองทัพของตนรู้ว่า บ้านเมืองแตกเสีย แก่ลาวแล้ว ไพร่พลจากเมืองราชสีมาที่หนีเข้าป่า ก็ตามมาพบครอบครัวมากนัก เหลืออยู่แต่คนที่สนิทติดตามหาตน อยู่ประมาณ สองร้อยเศษ น้อยตัวนักจักคิดกู้บ้านกู้เมืองคืนจากลาวล้วนคิดแต่หนีเอาตัวรอดไปกับครัวตน

Read More

บันทึกลับเจ้าพระยาบดินทร์เดชาฯ ตอน 5

การรวมพล จัดทัพที่เมืองสระบุรี เพื่อโจมตีทัพลาวเจ้าอนุ

527395_443915305646100_1322018412_n

พระยาสุริยภักดี(ป้อม) ไปราชการสักเลขเมืองลาว กลับมาพบเจ้าอนุ ๆ ยอมปล่อยให้กลับลงมากรุงเทพฯนั้น พระสุริยภักดีลงมาเถิงกรุงเก่า ก็พบเรือพระที่นังกรมพระราชวังบวรฯ ทอดประทับอยู่ จึ่งแวะเข้ากราบทูลชี้แจง การที่ตนได้ไปมาประสบ เหตุด้วยเจ้าอนุทุกประการ แล้วก็รีบล่องเรือลงมากรุงเทพฯ เข้าเฝ้าพระกรุณาในท้องพระโรง กราบบังคมทูลมูลเหตุแลประพฤติเหตุ แล้ว ได้กราบบังคมทูลพระกรุณาว่า “เมื่อลงมาเถิงกรุงเก่าพบกรมพระราชวังบวรฯ ที่นั้น ได้กราบทูลพฤติเหตุทุกประการแล้ว กรมพระราชวังฯ ได้ทรงรู้การที่เจ้าอนุ ตั้งค่ายทางไปมาทุกอย่างทุกประการ ตามที่ข้าพระพุทธเจ้า ได้เหนมาแล้ว”

Read More

บันทึกลับเจ้าพระยาบดินทร์เดชาฯ ตอน 4

การจัดทัพฝ่ายสยามในกรุงเทพมหานคร

v-badindecha

ฝ่ายที่กรุงเทพมหานคร เมื่อเดือนสาม ปีจอ อัฐศกนั้น พระไชยวิชิต ผู้ รักษากรุงเก่า เมื่อหนังสือบอกลงมา กรุงเทพฯ ฉบับ ๑ วางยังศาลาเวรมหาดไทย เจ้าพระยาอภัยภูธร(น้อย) ที่สมุหนายก นำหนังสือบอกกรุงเก่าขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณา ใจความว่า ราษฏรทั้งหลายเหนพวกลาวเมืองเวียงจันทร์ ลงมากวาดต้อนครอบครัวชาวเมืองสระบุรีพาขึ้นไปเป็นอันมาก เหตุผลต้นปลาย ประการใด ยังไม่รู้เกล้ารู้กระหม่อม แต่ได้ใช้ให้กรมการขึ้นไปสืบแล้วยังไม่กลับลงมา ถ้าได้ความประการใดจึ่งจักบอกลงมา กราบบังคมทูลพระกรุณาต่อครั้งหลัง

Read More

บันทึกลับเจ้าพระยาบดินทร์เดชาฯ ตอน 3

การยุทธที่เขาน้ำพุ

67868966

ฝ่ายพระณรงค์สงครามแม่ทัพครัวสยามเมืองราชสีมา เหนลาวเลิกทัพถอยไปดั่งนั้นแล้ว ก็ไม่ได้ติดตามตีทัพลาว เพราะทัพลาวล่าไปโดยไม่สู้บอบช้ำจึ่งสั่งทัพทั้งหลายไม่ให้ตาม ตัวเองขี่ม้าพาพลทหารกลับเข้าค่าย แล้วสั่งให้ หลวงพลอาษา นายด่านจันทึก ขึ้นม้าคุมทหารม้าห้าสิบม้ารีบไปสืบข่าวทัพลาว ว่าจักตั้งพักพลอยู่ที่ใดให้รู้การโดยละเอียดมา
หลวงพลอาษาขึ้นม้านำพลทหารไปสืบข่าวได้ความแล้ว กลับมาแจ้งข้อราชการกับพระณรงค์สงครามว่า ได้เหนลาวล่าไป หยุดพักพลตั้งค่ายมั่นอยู่ที่ตำบลน้ำพุสามค่าย ค่ายตั้งห่างกันประมาณยี่สิบเส้น ไม่เหนชักปีกกาเถิงกันทั้งสามค่าย ค่ายใหญ่ตั้งห่างไกล ลำธารน้ำประมาณ ๑๐ เส้น แต่ยังไม่ได้ขุดร่องสนามเพลาะทุกค่าย แลลาวยังกำลังปักกรุย ลงมาตามชายป่าเชิงเขาเป็นวงภาส พิจารณาดูคาดว่าลาวจักตั้งเป็นค่ายปีกกาลงมาตามเชิงเขาอีกหลายค่าย เมื่อดูนั้นได้ขึ้นต้นไม้สูงดูทั่วทุกกองทัพลาว เหนพลลาวกำลังตัดต้นไม้ปิดหนองน้ำลำธารที่ทางเราจักไปนั้นหลายแห่ง

Read More

บันทึกลับเจ้าพระยาบดินทร์เดชาฯ ตอน 2

การยุทธที่ทุ่งสำฤทธิ์

2k4a22a8a02d

ในครัวสยามไพร่พลเมืองราชสีมาที่ถูกกวาดต้อนไปเวียงจันทร์ มีข้าหลวง กรมการ ไพร่ทหารปะปนผสมกันไป มากมายนับหมื่น มีนายกองทะลวงฟันอาทมาต ในกองทัพพระองค์เจ้าขุนเณร ชื่อว่าพระณรงค์สงคราม เชี่ยวชาญการรบกลางแปลง แลกองโจร ครั้งศึกลาดหญ้าเมืองราชบุรี ได้ไปราชการหัวเมืองตะวันออก เป็นที่จางวางส่วยทอง เมืองนครราชสีมา ก็จำต้องถูกผสมกวาดต้อนไปพร้อมด้วยข้าราชการ กรมการเมืองราชสีมาด้วย

Read More

บันทึกลับเจ้าพระยาบดินทร์เดชาฯ ตอน 1

บันทึกลับการสงครามศึกเวียงจันทร์

12889667981288966868l

๑. ปฐมเหตุ ศึกเจ้าอนุวงศ์-เวียงจันทร์
เดิม เจ้าอนุวงศ์ เจ้าเมืองเวียงจันทร์ ลงมาช่วยในการพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ณ กรุงเทพฯ ครั้นเจ้าอนุวงศ์จักกลับขึ้นไปเวียงจันทร์ จึ่งได้เข้าไปกราบทูลถวายบังคมลาพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ(ขณะนั้นทรงกรม เป็นพระราชวังบวรฯ) แล้วเจ้าอนุกราบบังคมทูลพระกรุณา ขอพระราชทานพวกหม่อมละครเล็ก ๆ ผู้หญิงข้างในซึ่งเป็นละครชั้นเล็กในรัชกาลที่ ๒ นั้น กับขอพระราชทานเจ้าคำลาว ชาวเวียงจันทร์ซึ่งตกมาแต่ครั้ง พระเจ้าตากกรุงธนบุรีนั้นด้วย พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัว ไม่พระราชทานให้ตามเจ้าอนุ ขอสักอย่างเดียว

 

Read More

พยัคฆ์ทมิฬ สิ้นชาติ: Part II The Tiger Rising

กลับเข้าเรื่องของเรา หลังจากกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬขับไล่ทหารอินเดียออกจากเกาะศรีลังกาสำเร็จแล้ว พวกเขาก็ดำเนินการเข้ายึดครองเมืองจาฟนา ปราบปรามกลุ่มเคลื่อนไหวชาวทมิฬอื่นๆจนหมด ตั้งตัวเป็นตัวแทนของการแบ่งแยกดินแดนทมิฬแต่เพียงผู้เดียว
งานแรกที่กลุ่มพยัคฆ์ทมิฬทำหลังจากตั้งตัวได้คือการฉีกสัญญาพันธมิตรกับรัฐบาลศรีลังกา (จากกระทู้ก่อน ท่านได้ทราบว่ารัฐบาลศรีลังกาสงบศึกกับพวกพยัคฆ์ทมิฬชั่วคราว และยังส่งอาวุธสนับสนุนเพื่อให้ขับไล่อินเดียออกไป) พวกเขายกพลไปล้อมจังหวัดทางตะวันออกของศรีลังกา สั่งให้ตำรวจของรัฐบาลศรีลังกาวางอาวุธพร้อมทั้งถอนกำลังออกไปจากเมืองให้เร็วที่สุด
ประธานาธิบดีศรีลังกาเวลานั้นคือนายเปรมดัส มีความคิดว่าไหนๆพวกพยัคฆ์ทมิฬก็เคยช่วยกันขับไล่อินเดีย แล้วก็เป็นคนศรีลังกาเหมือนกัน ไม่อยากจะแตกหัก เลยยอมอ่อนข้อให้โดยการสั่งให้พวกตำรวจวางอาวุธและถอนกำลังออกจากเมือง

นายเปรมดัส

Read More

พยัคฆ์ทมิฬ สิ้นชาติ: Epilogue “Nothing Ever Ends”

ตำนานยุทธหัตถี
พ.ศ. ๒๑๓๕ หลังจากพระนเรศวรกระทำยุทธหัตถีมีชัยชนะต่อพระมหาอุปราชา พระองค์ทรงพิโรธเหล่าทหารที่ตามเสด็จมาอารักขาไม่ทัน คิดว่าเพราะมีใจขลาด ยำเกรงศัตรูยิ่งกว่าพระองค์ จึงจะลงโทษหนัก หากสมเด็จพระวันรัตวัดป่าแก้วซึ่งเป็นพระผู้ใหญ่ในยุคนั้นได้ทูลทัดทานว่า ที่ข้าราชการเหล่านี้จะเกรงข้าศึกกว่าพระองค์นั้นเห็นไม่เป็นได้ แต่น่าจะเกิดจากเหตุบันดาลให้เข้าไปมีชัยชนะโดยลำพัง
ด้วยการทำยุทธหัตถีโดยกษัตริย์ต่อกษัตริย์นี้เป็นโอกาสที่เกิดขึ้นได้ยาก หากกษัตริย์ใดกระทำ แม้เป็นฝ่ายแพ้ก็จะมีชื่อเสียงว่าสมชายชาติทหาร หากชนะก็จะมีเกียรติยศเลื่องลือไปทั่ว

พระนเรศวรทำยุทธหัตถี

Read More

พยัคฆ์ทมิฬ สิ้นชาติ: Part III Carnage

ปี 2002 ขณะที่ความฝันของการเป็นรัฐโดยชอบธรรมเข้าใกล้ความเป็นจริงที่สุดนั้น ประภาการันทราบดีว่าเขาต้องสลัดภาพลักษณ์ “ผู้ก่อการร้าย” ให้พ้นเสียก่อน จึงจะขึ้นเป็นผู้นำของรัฐเกิดใหม่ได้อย่างสง่างาม
ด้วยเหตุนี้ในเดือนเมษายนปีเดียวกัน ประภาการันจึงได้จัดงานแถลงข่าวขึ้นที่เมืองคิลินอชชิ และเชื้อเชิญสื่อมวลชนจากสำนักข่าวชื่อดังทั่วโลก เช่น BBC, CNN, New York Time มาให้สัมภาษณ์
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
งานแถลงข่าวของประภาการัน
ในวันนั้น ประภาการันใช้โทนเสียงที่อ่อนลง เขาพูดถึงเรื่องราวการต่อสู้เพื่อกู้ชาติที่กล้าหาญและสวยงาม เขาปฏิเสธการสังหารหมู่ หรือการก่อการร้ายใดๆ เปรียบเทียบมันกับความชั่วร้ายของฝ่ายรัฐบาล และบอกว่ามันเป็นสิ่งจำเป็นในสงคราม
เหตุการณ์เป็นไปด้วยดีจนกระทั่งมีนักข่าวคนหนึ่งถามว่า “คุณคิดอย่างไรกับการลอบสังหารนายกรัฐมนตรี ราจีฟ คานธีของอินเดีย?”

Read More